บทความ SEO ย่อมาจากคำว่าบทความ Search Engine Online ซึ่งเป็นบทความที่คุณสามารถพบเห็นได้ทั่วไป หากใช้ Google search ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ คุณพิมพ์คำว่า ‘ขายของออนไลน์’ ในช่อง Google search ทาง Google ก็จะค้นหาหัวข้อที่เกี่ยวข้องมากมายมาให้คุณ และเมื่อคุณคลิกเข้าไปจากหัวข้อที่เห็น สิ่งที่อยู่ภายในนั่นเองคือ บทความ SEO ที่ได้รับการเรียบเรียงและคัดสรรจากนักเขียนบทความ SEO ทุกท่านมาแล้ว ซึ่งถ้าคุณอยากจะเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับบน Google เหมือนกับบทความเหล่านั้น ทางเราก็ได้มี 7 เทคนิคเขียนบทความ SEO มาฝากให้คุณแล้ว
การเขียนบทความ SEO สำคัญอย่างไร?
การเขียนบทความ SEO มักจะเป็นบทความที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อ Content Marketing หรือก็คือเพื่อการตลาดออนไลน์นั่นเอง เพราะจำนวนยอดผู้ชมหรือยอดผู้อ่านมีผลต่อการตลาด รวมถึงการลงบทความจะช่วยกระตุ้นให้ Google รับรู้ว่าเว็บไซต์ของเรายังคงอยู่ ไม่ได้ปล่อยทิ้งร้าง อีกทั้งถ้าเว็บไซต์นั้น ๆ มีการอัปเดตบทความอยู่บ่อยครั้ง ก็จะทำให้ Google ผลักดันเว็บไซต์ของเราขึ้นไปอยู่ที่หน้าแรกมากขึ้น ทำให้มียอดผู้ชมเพิ่มมากขึ้นเป็นระบบเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ นั่นเอง
นอกจากนี้ ผู้เขียนบทความ SEO เองก็ต้องรับรู้ด้วยเช่นกัน ว่าจะต้องเขียนบทความเรื่องอะไร เกี่ยวกับอะไร หากในบทความมีเพียงการกล่าวถึงแบรนด์ต้นสังกัดไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าตัวแบรนด์เองไม่มียอดผู้ค้นหา ก็จะทำให้ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์น้อยไปด้วย จึงต้องเขียนบทความ SEO ในสิ่งที่กำลังเป็นเทรนด์โซเชียล หรือได้รับความนิยมตลอดเวลา สำหรับใครที่อยากจะเป็นนักเขียนบทความ SEO ทางเราก็ได้รวบรวมเทคนิคการเขียนบทความมาให้แล้ว
7 เทคนิคเขียนบทความ SEO อย่างไรให้ติดอันดับ Google
-
หา Keyword ที่ใช่
หัวใจหลักของการเขียนบทความ SEO เลยก็คือการรู้จัก Keyword ที่ใช่ ซึ่ง Keyword นั้นสามารถที่จะเป็นอะไรก็ได้ แต่ถ้าคุณเป็นผู้ที่กำลังเริ่มเขียนบทความ ขอแนะนำให้เริ่มต้นจาก Keyword ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือเว็บไซต์หลักเสียก่อน ตัวอย่างเช่น สินค้าเป็นกระเป๋า ก็ต้องหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋า อย่าง ‘กระเป๋าแพง’ ‘กระเป๋าแบรนด์’ ‘วิธีดูแลกระเป๋า’ ทั้งหมดนี้สามารถเป็น Keyword ให้คุณได้ทั้งนั้น แต่ Keyword ที่ดีที่สุด คือ Keyword ที่มียอดผู้ค้นหามากที่สุด
-
ตั้งหัวข้อและโครงสร้างบทความให้ดี
หัวข้อบทความคือสิ่งแรกที่ผู้คนจะต้องอ่าน จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งหัวข้อบทความของคุณให้มีความน่าดึงดูด หรือน่าสนใจ ทางที่ดีที่สุดควรตั้งหัวข้อเหมือนกับคำถาม เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้ว่าจะหาคำตอบที่ตนเองต้องการได้จากบทความนี้ โดยอาจอ้างอิงจากผู้เขียนบทความ SEO คนอื่นก็ได้ ตัวอย่างเช่น
-
- SEO คืออะไร? สรุปวิธีทำ SEO ให้เข้าใจง่าย ติดอันดับ Google
- P.M.2.5 ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพของเราบ้าง?
-
สอดแทรก keyword ในบทความ SEO
เมื่อคุณได้ Keyword และหัวข้อบทความ SEO เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่จะทำให้บทความของคุณติดอันดับการค้นหาบน Google ได้ดีขึ้น นั่นก็คือการสอดแทรก Keyword ที่คุณคัดสรรมานั้น เข้าไปในบทความด้วย ซึ่งยิ่งมี Keyword มากเท่าไรจะยิ่งทำให้ Google ตรวจพบบทความของคุณได้มากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันหากมี Keyword มากเกินไปจนไม่สามารถสื่อใจความสำคัญของบทความออกไปได้ ก็จะไม่มีผู้เข้าชมมาอ่านบทความหรือใช้เวลากับเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงถูก Google ระบุว่าเป็นสแปมได้ จึงควรที่จะทอดแทรก Keyword เอาไว้อย่างแนบเนียน ไม่ดูฝืน หรือมากเกินไป
-
กำหนดหัวข้อย่อยในบทความ
หัวข้อย่อยในการเขียนบทความ SEO เองก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากการมีหัวข้อระบุว่าในย่อหน้านั้น ๆ จะกล่าวถึงอะไรบ้าง จะทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกสบายตา และอ่านง่ายมากขึ้น ทางที่ดีควรมีหัวข้อย่อยออกไปอีกประมาณ 1 – 3 หัวข้อ เพื่อไม่ให้มากเกินหรือน้อยเกิน
-
ใส่รูปภาพที่เหมาะสมกับเนื้อหา
เทคนิคนี้ได้เคยมีการเก็บสถิติอย่างจริงจังมาแล้ว ว่าบทความ SEO ที่มีรูปภาพประกอบบ้าง จะทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกว่าบทความของเรายาวเกินไปจนไม่อยากอ่าน อีกทั้งยังมาคั่นให้ได้รู้สึกเหมือนพักสายตาระหว่างอ่านบทความได้อีกด้วย นอกจากนี้การตั้งชื่อรูปภาพให้เป็น Keyword ก็สามารถช่วยให้ Google ตรวจสอบพบบทความของคุณได้ดียิ่งขึ้น
-
บทความ SEO ต้องไม่ยาวเกินหรือสั้นไป
บทความ SEO โดยทั่วไปมักจะอยู่ระหว่าง 500 – 1000 คำ เนื่องจากถ้าน้อยกว่านี้จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเนื้อหาน้อยเกินไป แต่ถ้ามากกว่านี้จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเนื้อหาเยอะเกินไป จึงจำเป็นต้องย่อยบทความลงให้เหลือเพียง 500 – 1000 คำ แต่ก็สามารถยกเว้นได้ ในกรณีที่เป็นหัวข้อใหญ่ จำเป็นต้องใส่รายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชมรู้สึกว่าตัวหนังสือเยอะเกินไป หรือตาลายระหว่างอ่าน ก็ควรนำรูปภาพมาใส่คั่นเอาไว้ด้วย
-
เขียนให้สม่ำเสมอ
เทคนิคสุดท้ายของการเขียนบทความ SEO เลย นั่นก็คือการเขียนบทความอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง หากเว็บไซต์ของคุณมีการอัปเดตเว็บไซต์ตลอด เรียกว่าเป็นกิจจะลักษณะ ก็มีโอกาสที่ Google จะพบบทความของคุณและผลักดันให้เว็บไซต์ไปอยู่อันดับบน ๆ ได้
ดังนั้นแล้ว ถ้าหากคุณอยากเขียนบทความ SEO ให้อยู่ติดอันดับ Google เหมือนเว็บไซต์อื่น ๆ ที่หน้าแรกบ้าง จึงควรที่จะฝึกเขียน SEO ไปเรื่อย ๆ แต่สม่ำเสมอ เพราะจะทำให้ฝีมือการเขียนบทความ SEO ของคุณพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมา และเว็บไซต์เองก็จะถูกอัปเดตอยู่ตลอด เรียกว่ามีแต่ได้กับได้เลยนั่นเอง แต่ถ้าคุณอยากจะได้คนเขียนบทความ SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณ ในตอนนี้ ทันทีเลย ก็สามารถมามองหาฟรีแลนซ์นักเขียนบทความ SEO บนเว็บไซต์ Fastwork ได้เลย การันตีความเป็นมืออาชีพ เขียนจริง ติดอันดับจริงอย่างแน่นอน
