การดำเนินธุรกิจในแต่ละประเภท ถึงแม้ว่าจะต้องการการบริหารที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกธุรกิจก็มีสิ่งสำคัญที่เหมือนกัน นั่นก็คือการบริหารเงินให้ไปรอด ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะได้ไปสวยขนาดไหน มีลูกค้าหรือผู้ใช้บริการที่ไว้วางใจมากเท่าไร ถ้าหากธุรกิจไม่มีกำไร บัญชีขาดดุล หรืองบประมาณในการจัดการมีปัญหา ก็เป็นอันต้องปิดตัวลงทุกราย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น ทุกธุรกิจจึงจำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีนั่นเอง ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือกำลังจะประกอบกิจการของตัวเองอยู่เช่นกัน ลองมาทำความรู้จัดการตรวจสอบบัญชีกันดูดีกว่า
การตรวจสอบบัญชีคืออะไร สำคัญอย่างไร
การตรวจสอบบัญชี คือการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับบัญชีธุรกิจ โดยอ้างอิงจากหลักมาตรฐานรายงานทางการเงิน จากนั้นผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจก็จะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปต่อยอดให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงในจุดที่มีปัญหาได้ในอนาคต
ซึ่งผู้ที่ทำการตรวจสอบบัญชีได้นั้น จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชีจากสำนักงานบัญชีที่ได้รับการรับรอง หรือผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับการรับรองจากสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ ถึงจะเรียกว่าเป็นตรวจสอบบัญชีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าหากคุณยังไม่เห็นภาพ ว่าผู้ตรวจสอบบัญชีจะมีความสำคัญกับธุรกิจของคุณมากแค่ไหน ทางเราก็ได้สรุปมาให้ ดังต่อไปนี้
-
สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจคุณได้
การตรวจสอบบัญชี สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของคุณได้ เพราะถ้าหากธุรกิจของคุณได้รับการตรวจสอบบัญชีแล้ว ก็เสมือนกับร้านข้าวราดแกงที่ได้รับการการันตีจากกรมอนามัยแล้วว่าอร่อย สะอาด ปลอดภัย ทั้งนักลงทุน ลูกค้า สถาบันการเงิน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณทุกคน ก็จะสามารถมั่นใจ เชื่อถือ และไว้ใจว่าธุรกิจของคุณสะอาด โปร่งใส ไม่มีการทุจริตหรือมีปัญหาทางการเงินอย่างแน่นอน
-
ทำให้คุณสามารถเห็นปัญหาทางการเงินโดยรวมได้
การตรวจสอบบัญชีนั้น นอกจากจะทำให้ธุรกิจของคุณมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นแล้ว ยังสามารถมองเห็นความผิดพลาด ปัญหาทางการเงิน รวมถึงเส้นทางการทุจริตภายในองค์กรได้อีกด้วย เพราะเมื่อตรวจสอบบัญชีแล้ว นักสอบบัญชีจะส่งรายงานแจ้งว่าภายในองค์กรของคุณเป็นอย่างไร มีการทำบัญชีผิดพลาดหรือไม่ มีการยักยอกเงิน ปลอมแปลงเอกสารหรือทิศทางของเงินที่น่าสงสัยบ้างหรือไม่
-
สามารถนำไปพัฒนาระบบภายในของธุรกิจได้
ข้อนี้เองก็ต่อเนื่องมาจากข้อ 2 เนื่องจากเจ้าของธุรกิจจะได้รับรายงานทางการเงินต่าง ๆ จากนักตรวจสอบบัญชีแล้ว ก็เป็นหน้าที่เจ้าของธุรกิจว่าจะทำอย่างไรกับข้อมูลเหล่านั้น จะนำไปแก้ไข พัฒนา วางกลยุทธ์ หรือจะบริหารเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้นก็ย่อมได้ อีกทั้งในบางครั้ง ผู้ตรวจสอบบัญชีที่มีความรู้ความสามารถ กับประสบการณ์เพิ่มเติม อาจจะช่วยชี้แนะแนวทางในการปรับปรุงระบบภายในองค์กรให้กับเจ้าของธุรกิจได้อีกด้วย
-
ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นไปตามข้อกฎหมาย
เนื่องจากทั้งกฎหมาย ข้อบังคับ รวมถึงภาษีนิติบุคคล สามารถที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหรืออัปเดตใหม่ได้ตลอดทุกปี การมีผู้ตรวจสอบบัญชีที่เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือ จะทำให้ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเข้ารูปเข้ารอยและเป็นไปตามที่ข้อกฎหมายกำหนดได้อย่างไม่จำเป็นต้องกังวล ว่าธุรกิจเหล่านั้นจะมีปัญหาในอนาคต และสามารถที่จะบริหารธุรกิจในระยะยาวได้เลย รวมถึงสามารถที่จะส่งงบการเงินให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในขั้นตอนต่อไปได้ด้วย
-
สามารถนำไปวางแผนเพื่อธุรกิจในอนาคตได้
เมื่อธุรกิจของคุณได้รับการตรวจสอบบัญชีเรียบร้อยแล้ว เจ้าของธุรกิจได้รับรายงานงบทางการเงินต่าง ๆ แล้ว ก็จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าการบริหารธุรกิจรูปแบบนี้เป็นอย่างไร แล้วสามารถที่จะนำไปวางแผนกลยุทธ์เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต หรือขยายการเติบโตของธุรกิจได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
ขั้นตอนในการตรวจสอบบัญชี สำหรับเจ้าของธุรกิจ
สำหรับใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจ หลังจากที่เห็นความสำคัญของการตรวจสอบบัญชีแล้ว ก็คงอยากจะตรวจสอบบัญชีธุรกิจของตนเองกันอย่างแน่นอน แต่ยังไม่รู้ว่าการตรวจสอบบัญชีจะใช้เวลานานเท่าไร ใช้ทรัพยากรแค่ไหนใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ลองมาดูขั้นตอนการตรวจสอบบัญชีที่เราสรุปมาให้กันดีกว่า
-
ขั้นตอนที่ 1 มอบข้อมูลเบื้องต้นให้ผู้ตรวจสอบบัญชี
ทางเจ้าของธุรกิจ ต้องมอบข้อมูลเบื้องต้นให้กับนักตรวจสอบบัญชี ไม่ว่าจะเป็นชื่อธุรกิจ ประเภทของธุรกิจ ลักษณะและความซับซ้อนของงบการเงิน เพื่อให้ผู้ตรวจสอบบัญชีสามารถทำความเข้าใจและประเมินธุรกิจของคุณก่อนตรวจสอบได้
-
ขั้นตอนที่ 2 ผู้ตรวจสอบบัญชีเข้าทดสอบระบบควบคุมภายในขององค์กร
จากนั้นผู้ตรวจสอบบัญชีก็จะเข้าถึงระบบควบคุมภายในของธุรกิจดังกล่าว โดยปกติเมื่อทดสอบแล้วจะแจ้งว่าต้องใช้เวลาเท่าไรในการตรวจสอบ วิธีการตรวจสอบ รวมไปถึงเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการตรวจสอบ
-
ขั้นตอนที่ 3 ผู้ตรวจสอบบัญชีตรวจสอบรายงานทางการเงิน
ขั้นตอนนี้จะเรียกว่าเป็นหน้าที่หลักของผู้ตรวจสอบบัญชีเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็จะเป็นจุดที่ผู้ตรวจสอบบัญชีได้ทำรายงานทางการเงิน รวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาจจะมีการลงไปตรวจสอบหน้างานบ้างขึ้นอยู่กับกรณีและประเภทของธุรกิจ
-
ขั้นตอนที่ 4 ผู้ตรวจสอบบัญชีสรุปผลและมอบรายงานกับเจ้าของธุรกิจ
สุดท้ายแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นทุกกระบวนการ ผู้ตรวจสอบบัญชีก็จะส่งมอบรายงานให้กับเจ้าของธุรกิจหรือผู้ว่าจ้าง โดยอาจจะมีการแสดงความคิดเห็นต่อรายงานทางการเงินนั้นบ้าง ว่าพบปัญหาอะไรที่ต้องแก้ไข ผ่านหรือไม่ผ่านข้อกฎหมาย หากผู้ตรวจสอบบัญชีทำการรับรองแล้วก็เป็นอันจบการตรวจสอบเพียงเท่านี้
เมื่อรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชีทั้งหมดแล้วเหล่านี้ และถ้าหากคุณต้องการที่จะมองหานักตรวจสอบบัญชีสักคนเข้ามาช่วยเหลือและตรวจสอบด้านการเงิน ก็สามารถมามองหาได้ที่เว็บไซต์ Fastwork เว็บรวมฟรีแลนซ์ที่มีมืออาชีพพร้อมให้บริการคุณอยู่ในทุกแขนงทุกสายงาน รับรองเลยว่าคุณจะได้งานที่มีคุณภาพและรวดเร็วทันใจไม่ผิดหวังแน่นอน