การวางแผนการลงทุน สำหรับหลายๆ คนอาจฟังดูเป็นเรื่องเข้าใจยาก หรือ เป็นเรื่องไกลตัว แต่เชื่อหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมันคือเรื่องที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย และยังสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องสำคัญกับวันทำงานอย่างที่หลายคนเข้าใจเท่านั้น บทความนี้เราจะมาอธิบาย วิธีการวางแผนการลงทุน ที่เข้าถึงได้ง่ายด้วยการบอกเล่าผ่านลักษณะความแตกต่างของเจนเนอเรชั่น มาดูกันว่าแต่ละเจนเนอเรชั่นควรวางแผนการลงทุนอย่างไรให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเองกันบ้าง
วางแผนการลงทุนแบบ Baby Boomer
Baby Boomer คือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ.2489-2507
เป็นเจนเนอเรชั่นที่เริ่มเข้าสู่วัยชรา โดยพื้นฐานแล้วเป็นช่วงอายุที่เติบโตมาพร้อมการแข่งขัน การทำงานหนัก มีความอดทนสูง รอบคอบในการใช้ชีวิต และมีความประหยัด ซึ่งแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับวัยนี้ควรเป็นการออมเงินเพื่อเตรียมเข้าสู่วัยเกษียณ โดยเน้นไปที่ความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้นและสร้างความมั่นคงให้มากที่สุด เช่น การฝากประจำ ประกันชีวิตแบบบำนาญ
วางแผนการลงทุนแบบ Gen X
Gen X คือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ.2508-2522
เป็นเจนเนอเรชั่นที่อยู่ในวันทำงานและมีครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วเติบโตมาในยุคที่เศรษฐกิจมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงความคิดเห็น มีความมั่นใจในตัวเอง ดังนั้นแนวทางในการวางแผนการลงทุนที่เหมาะสม คือการเก็บเงินเพื่อครอบครัวให้มีความมั่นคง เน้นไปที่การเก็บออมเพื่ออนาคตของบุตรและการดำเนินชีวิต รวมไปถึงเตรียมตัวเพื่อวันสูงอายุของตัวเองร่วมด้วย ในขณะเดียวกันโดยนิสัยที่มีความกล้าเสี่ยงส่งผลให้สามารถจัดสรรเงินออมด้านการลงทุนได้พอสมควร แต่ไม่ควรลงทุนแบบผาดโผนจนเกินไป ควรเน้นไปที่การลงทุนระยะยาวเพื่อผลประโยชน์ที่คุ้มค่ามากกว่า เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวมประเภท LTF หรือ RMF ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพ เป็นต้น
วางแผนการลงทุนแบบ Gen Y
Gen Y คือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ.2523-2540
เป็นเจนเนอเรชั่นที่เกิดมาพร้อมกับการพัฒนาของเทคโนโลยีและความนิยมของสื่อโซเชียลมีเดีย ทำให้มีนิสัยที่ไม่ยึดติดกับค่านิยมเดิมๆ มีความคิดสมัยใหม่มากขึ้นจากเดิม มีความกล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างมาก ไม่ชอบความยาวนานเท่าไหร่นัก ดังนั้นการวางแผนการลงทุนของเจนเนอเรชั่นนี้ควรคำนึงถึงการเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ และฝึกวินัยในการใช้จ่ายอย่างเข้มงวด เพราะมีแนวโน้มในการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยได้ง่ายๆ เพราะมีจับจ่ายที่สะดวกง่ายดายผ่านออนไลน์ ทำให้อาจดึงเงินเก็บมาใช้ได้แบบไม่รู้ตัว ควรให้ความสำคัญกับการออม และการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น กองทุนรวมหุ้น ตราสารหนี้ หุ้นกู้ ฝากประจำปลอดภาษี และที่สำคัญควรเริ่มศึกษาการลงทุนหุ้นในระยะยาวควบคู่ไปด้วย
เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงและงอกเงยฝากประจำปลอดภาษี หรือโครงการพิเศษต่าง ๆ และควรเริ่มมองการลงทุนหุ้นในระยะยาวด้วย
วางแผนการลงทุนแบบ Gen Z
Gen Z คือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ.2540-2552
เป็นเจนเนอเรชั่นที่ยังเป็นเด็กนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเติบโตมากับความสะดวกสบายต่างๆ มากมายในชีวิต ท่ามกลางยุคดิจิทัลที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างง่ายดาย ทำให้พื้นฐานมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่เชื่อถือแนวทางการปฏิบัติแบบเดิมๆ ต้องการความแตกต่างที่เปลี่ยนแปลงแนวคิดเดิม ชื่นชอบความรวดเร็วทันใจ มักศึกษาหาข้อมูลและลองผิดลองถูกด้วยตัวเองมากกว่า ดังนั้นแนวทางในการวางแผนการลงทุนของเจอเนอเรชั่นนี้ คือ การสร้างวินัยในการเก็บออมตั้งแต่เด็ก เช่น การฝากเงินในธนาคาร สลากออมทรัพย์ โดยการตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะกลาง เพื่อฝึกการจัดการเงินของตัวเอง ด้วยเป้าหมายเล็กๆ เช่น การท่องเที่ยว การซื้อของที่ต้องการ ทั้งนี้ควรศึกษาเรื่องการเงินไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อสร้างรากฐานที่ดีในอนาคตต่อไปนั่นเอง
วางแผนการลงทุนแบบ Gen Alpha
Gen Alphaคือ ผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ.2553 – 2568
เป็นเจนเนอเรชั่นที่ยังเป็นเด็ก ดังนั้นการวางแผนการลงทุนจะต้องมีการปูรากฐานโดยผู้ปกครอง เพื่อให้ในอนาคตของเด็กเหล่านี้สามารถจัดการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นไปที่แผนการศึกษาของลูกเป็นสำคัญ ด้วยการกำหนดเป้าหมายของการลงทุนว่าต้องใช้เงินในการเรียนจนถึงระดับใด ใช้การออมรูปแบบใด มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน และกำหนดระยะเวลาในการลงทุนอย่างชัดเจน รวมไปถึงประเมินความเสี่ยงในระหว่างการเลี้ยงดูในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินร่วมด้วย
การวางแผนการลงทุนคือสิ่งสำคัญที่ยิ่งเริ่มต้นได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับชีวิตมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการออมเงินเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการวางแผนอนาคต แผนเกษียณอายุ และกรณีฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย ดังนั้นหากตระหนักได้แล้วแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นการลงทุนอย่างไรให้เป็นระบบ Fastwork ตอบโจทย์นี้คุณได้ เพราะเรามีฟรีแลนซ์ด้านการเงินที่จะให้คำปรึกษาและช่วยคุณวางแผนการเงินในแบบฉบับของคุณได้อย่างเหมาะสม รับรองว่าจะทำให้การใช้เงินของคุณมีระเบียบมากขึ้นจากเดิมแน่นอน