การเล่าเรื่อง (Storytelling) ที่มีประสิทธิภาพสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับธุรกิจในการสร้างตัวตนของแบรนด์ให้แข็งแรง, เชื่อมต่อกับลูกค้า และทำให้ธุรกิจเติบโตในที่สุด ต่อไปนี้จะเป็นเคล็ดลับในการใช้การเล่าเรื่อง (Storytelling) เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต
7 เคล็ดลับในการ Storytelling เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต
1.กำหนดคุณค่าของแบรนด์
ขั้นตอนแรกในการใช้การเล่าเรื่องเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต คือ การกำหนดคุณค่าของแบรนด์และภารกิจ สองสิ่งนี้จะทำหน้าที่เป็นพื้นฐานของเรื่องราวของแบรนด์คุณทั้งหมด พิจารณาถึงสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ คุณค่าใดสำคัญต่อแบรนด์ และคุณอยากจะให้ผู้ชมรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณอย่างไร
2.กำหนดกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย
ในการสร้างเรื่องที่น่าดึงดูดที่ตรงใจผู้ชม การรับรู้ว่าใครเป็นกลุ่มผู้ชมเป้าหมายนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ค้นหาความสนใจของผู้ชม, คุณค่า และปัญหาของลูกค้า (Pain points) เพื่อสร้างเรื่องราวที่ตรงกับความสนใจและกระตุ้นผู้ชมให้เกิดปฏิกิริยาต่อเรื่องราวนั้น ๆ
3.สร้าง Story ของแบรนด์
ใช้คุณค่าและภารกิจที่คุณได้กำหนดและข้อมูลเชิงลึกที่คุณได้มาจากกลุ่มผู้ชมเป้าหมายเพื่อสร้างเรื่องราวของแบรนด์ที่มีความน่าสนใจ เรื่องราวของคุณควรเป็นเรื่องจริง, สะเทือนอารมณ์ และมีความเกี่ยวข้อง ไฮไลท์ในเอกลักษณ์ของแบรนด์ และบอกกล่าวแก่ผู้รับชมว่าแบรนด์ของคุณจะช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างไร
4.ผสานการเล่าเรื่อง (Storytelling) เข้ากับกลยุทธ์การตลาด
เมื่อคุณได้สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์แล้วคุณต้องผสานเรื่องราวเหล่านี้ให้เข้ากับกลยุทธ์การตลาด โดยกายสร้างวิดิโอ. แคมเปญในโซเชียลมีเดีย หรือการเขียนบล็อก ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ การใช้การเล่าเรื่องในการพรรณนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์, การรับรองสินค้าหรือบริการจากลูกค้า (Customer testimonials) และเครื่องมือการตลาดอื่น ๆ เพื่อสร้างความยึดโยงกับลักษณะของแบรนด์
5.มีส่วนร่วมกับผู้ชม
การมีส่วนร่วมกับผู้ชมเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมโยงและสร้างความจงรักภักดีสำหรับแบรนด์ ใช้การเล่าเรื่องเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณบนโซเชียลมีเดีย, ตอบคอมเมนต์ และแบ่งปันเรื่องราวที่สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์ มีการจัดอีเวนท์เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ตรงกับเรื่องราวของแบรนด์
6.วัดผลความสำเร็จ
ท้ายที่สุดต้องมีการวัดผลของความสำเร็จโดยการติดตามมาตวัดการเข้าถึง (Engagement metrics), ยอดขาย (Sales) และอัตราการรักษาลูกค้าเก่า (Customer retention rates) ใช้มาตรวัดเหล่านี้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเล่าเรื่องและเรื่องราวของแบรนด์ดีขึ้น
Storytelling เป็นเครื่องมือทรงพลังที่สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตโดยการสร้างตัวตนของแบรนด์, เชื่อมต่อกับลูกค้า และกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยา โดยการกำหนดคุณค่าของแบรนด์และธุรกิจ, กำหนดกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย, สร้างเรื่องราวที่น่าสนใจของแบรนด์, ผสานการเล่าเรื่องเข้ากับกลยุทธ์การตลาด, มีส่วนร่วมกับผู้ชม, และวัดผลความสำเร็จ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้ประโยชน์จากการเล่าเรื่องในการทำให้ธุรกิจเติบโตได้