[vc_row][vc_column][vc_column_text]
คิดงานไม่ออกต้องทำไง เปิดตัวช่วยคู่ใจที่ไม่ใช่ Instant Coffee
[/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
ชาวฟรีแลนซ์หลายคนเคยเป็นกันไหม ที่อยู่ดี ๆ สึนามิกองงานก็ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน พอใช้ความคิดเยอะ ๆ เข้า สมองเจ้ากรรมก็ดันเข้าโหมดปิดใช้บริการจนคิดงานไม่ออก ใจอยากหยุดพักผ่อนคลาย แต่เดดไลน์ก็จ่อเคาะประตูบ้าน ขืนฝืนทำงานต่อไปคงไม่ไหวแน่ เพราะพอถึงตรงนี้ ความเครียดจะดึงให้เราจมอยู่ในสภาวะนั้น จนปั่นงานต่อไม่ได้ [/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
ในจังหวะนี้ หลายคนเลือกแก้ปัญหาด้วยกาแฟสักแก้ว แต่ขอบอกว่าเรามีวิธีที่ง่ายกว่านั้น วันนี้เราเลยจะมาชวนทุกคน ‘พักครึ่ง’ ปรับอารมณ์ เคลียร์สมองแบบไว ๆ เพื่อให้พร้อมกับคลื่นกองงานลูกต่อไปอย่างทันท่วงที ด้วยการทำกิจกรรมที่สวนทางกับความรู้สึกตอนนั้นตาม 5 ขั้นตอนต่อไปนี้[/vc_column_text][vc_empty_space height=”15px”][vc_column_text]
ขั้นที่ 1 ไม่ไหวบอกไม่ไหว สังเกตสัญญาณร่างกายจังหวะนั้น[/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
ขั้นตอนแรกที่เราต้องทำคือการกลับมาสังเกตตัวเองในขณะนั้น โดยสังเกตอารมณ์ตอนนั้นว่าเริ่มกดดัน เหนื่อย เครียดหรือเปล่า แต่ถ้าอารมณ์ยังไม่ชัด ก็สังเกตผ่านร่างกายเป็นหลัก ช่วงไหนที่ปั่นงานมาราธอนไปสักพักแล้วหลังเริ่มตึง คอเริ่มเมื่อย ตาเริ่มล้าแล้วละก็ ให้รู้ตัวเองเลยว่าจังหวะนี้ต้องเริ่มดึงตัวเองกลับมาแล้วนะ [/vc_column_text][vc_empty_space height=”15px”][vc_column_text]
ขั้นที่ 2 รับรู้อารมณ์ว่าส่งผลต่อเรายังไง[/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
หลังจากที่รับรู้อารมณ์และสภาพร่างกายในขณะนั้นแล้ว ลองสังเกตเพิ่มอีกนิดว่าสิ่งนั้นกระตุ้นหรือส่งผลต่อเรายังไง บางคนพอเครียดปุ๊บก็ตะบี้ตะบัน พยายามเค้นสมองควานหาไอเดียต่อไป ทั้ง ๆ ที่สมองแทบไม่ไหวแล้ว หรือบางคนพอคิดงานไม่ออกก็เริ่มจ๋อย พลังงานหดจนทำงานต่อไม่ได้ ถ้ามาถึงจุดนี้แล้ว ต้องรีบปรับอารมณ์ตามขั้นต่อไปโดยด่วน[/vc_column_text][vc_empty_space height=”15px”][vc_column_text]
ขั้นที่ 3 พักสายตา ขยับร่าง สร้างเอเนอจี้[/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
หลังจากที่นั่งนิ่งมานาน จังหวะนี้ ลองพาตัวเองออกจากจุดนั้น เริ่มง่าย ๆ ด้วยการพักสายตา สะบัดตัวออกจากโต๊ะแล้วไปทำกิจกรรมอื่นที่ตรงกันข้ามให้ร่างกายได้ขยับดู เช่น เดินไปดื่มน้ำสักนิด เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าให้สดชื่นสักหน่อย ใครเบื่อ ๆ ก็โทรไปเม้าท์มอยกับเพื่อน หรือเดินเล่นรอบ ๆ ประมาณ 15 นาที แค่เปลี่ยนบรรยากาศเท่านี้ ก็เหมือนได้รีเซ็ตเอเนอจี้ตัวเองแล้ว[/vc_column_text][vc_empty_space height=”15px”][vc_column_text]
ขั้นที่ 4 คั่นเวลาแบบจอย ๆ ด้วย Joy schedule[/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
ร่างกายตื่นตัว แต่อารมณ์ยังจ๋อย มาหาอะไรจอย ๆ ทำคั่นเวลาดีกว่า แนะนำให้รีชาร์จตัวเองด้วยกิจกรรมแทรกสั้น ๆ ที่สนุกแต่ใช้เวลาไม่นานจนรู้สึกผิด ลองถามตัวเองดูว่า พอจะมีกิจกรรมอะไรให้เราผ่อนคลายระหว่างวันที่ใช้เวลาสั้น ๆ และไม่รบกวนงานจนเกินไปไหม ถ้าได้แล้วก็ลองลิสต์ไว้เป็น Joy schedule เอาไว้แทรกระหว่างทำงานเป็นระยะ จะฟังเพลง เล่นเกม หรือทานขนมอร่อย ๆ ก็เลือกได้ตามสไตล์คุณ[/vc_column_text][vc_empty_space height=”15px”][vc_column_text]
ขั้นที่ 5 เรียนรู้จังหวะการทำงานของตัวเอง[/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
ขั้นตอนสุดท้ายคือการเรียนรู้ตัวเองว่าหลังจากได้รีชารจ์แล้ว จังหวะการทำงานของเราเปลี่ยนไปบ้างไหม การทบทวนตัวเองในขั้นนี้จะช่วยให้เรารู้ตัวเองว่าเราชอบพัก ณ จังหวะไหน เช่น บางคนทำงาน 2 ชั่วโมงแล้วพัก 20 นาที หรือบางคนอาจจะพักบ่อยหน่อย เช่น ทำงานครึ่งชั่วโมงแล้วพัก 5 นาที สิ่งสำคัญคือต้องรู้ลิมิตตัวเองและเว้นช่วงพักบ้าง อย่าทำงานลากยาวจนไฟมอดนะ [/vc_column_text][vc_empty_space height=”10px”][vc_column_text]
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการปลุกพลังระหว่างวันอันยุ่งเหยิง แค่เวลาสั้น ๆ ให้ได้พักร่างกาย ผ่อนคลายใจ ก็ช่วยให้คุณรีเซ็ตเอเนอจี้ให้พร้อมลุยกองงานได้อย่างเต็มที่ ว่าแล้วก็อย่าลืมสังเกตตัวเองและพักครึ่งเป็นระยะด้วยนะชาวฟรีแลนซ์[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]