รู้หรือไม่ว่าปัจจุบันสรรพากรมีวิธีติดตามและตรวจสอบรายได้พวกเรามาจากทางไหนบ้าง เมื่อคุณมีรายได้จากการขายของออนไลน์ คุณอย่าลืมยื่นภาษี และอย่าเข้าใจผิดว่าการยื่นภาษีคือการเสียภาษี วันนี้ผมจะพามาดู แนวทางการจัดการระบบบัญชีและภาษีของธุรกิจของคุณยังไงให้ถูกวิธีและประหยัดภาษีมากที่สุด
ก่อนอื่นในฐานะที่เราขายของออนไลน์เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าจะต้องเสียภาษีประเภทไหนและเสียภาษี อย่างไร เราต้องมีการยื่นขอเสียภาษีเงินได้ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในปัจจุบันก็สามารถยื่นทั้งออนไลน์และ พื้นที่สรรพากรได้ตามความสะดวก
1. ครึ่งปีแรกยื่นแบบ ภงด.94
สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในดือนมกราคม- มิถุนายน โดยจะต้องยื่นแบบภายในเดือนกันยายน
2. ครึ่งปีหลังยื่นแบบ ภงด.90
สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม-ธันวาคม จะต้องยื่นแบบภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป โดยคำนวณภาษีเงินได้ตลอดทั้งปี หักด้วยยอดภาษีที่จ่ายครึ่งปีจะได้มูลค่าภาษีที่จะต้องจ่ายในครึ่งปีหลัง
6 เทคนิคลับในการจัดการร้านค้า
1. แยกบัญชีเงินฝากธนาคารจากรายได้ประเภทอื่นๆ ยอดเข้า-ออกทุกยอดจากบัญชีนี้ต้องทราบแหล่งที่มาและแหล่งที่ไป เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ
2. ควรมีการบันทึกยอดขายทุกครั้งที่มีการ ขายสินค้าหรือให้บริการ จะสรุปเป็นรายวัน หลายสัปดาห์ หรือรายเดือนก็ได้ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ และการจัดทำงบการเงินเบื้องต้นเช่น รู้ผลกำไรประจำเดือน รู้สถานะการเงิน ณ ปัจจุบัน เมื่อมียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน
3. เมื่อมีการซื้อสินค้าจะต้องขอใบเสร็จทุกครั้งเพื่อเก็บเป็นหลักฐานในการซื้อสินค้าที่ซื้อมาใช้ในร้าน เก็บหลักฐานการซื้อสินค้าทุกครั้ง ทั้งนี้ควรตรวจสอบข้อมูลในใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี รายการสินค้า หากผิดพลาดให้รีบแก้ไขทันที (กรณีขายยของนามบุคคล ค่าใช้จ่ายตอนยื่นภาษี หักได้ 2 รูปแบบ 1.หักเหมาๆๆ 60% ของรายได้ 2. หักตามจริง คือใช้เอกสารค่าใช้จ่ายจริงในการยื่นภาษี แต่ถ้าต้องการหักเหมา 60% ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเอกสารใบเสร็จรับเงินตอนที่ซื้อของ)
4. สำหรับบุคคลธรรมดา ควรวางแผนค่าลดหย่อนที่จะนำมาลดหย่อน ณ วันยื่นภาษี เพื่อให้เสียภาษีได้น้อยลง หรือจะได้ไม่เสียภาษี เช่นค่าเบี้ยประกัน ค่าประกันสุขภาพ เงินประกันสังคม ดอกเบี้ยบ้าน หรืออื่นๆ
5. ควรยื่นภาษีให้ตรงเวลาจะได้ไม่มีค่าปรับและเงินเพิ่ม สามารถยื่นผ่านออนไลน์หรือยื่นกระดาษที่สรรพากรเขตพื้นที่ใกล้บ้าน
6. สรรพากรณปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการตรวจสอบการเงิน ที่รวดเร็วและทันสมัย หากเกิดตรวจสอบจะโดนถูกปรับเป็นจำนวนมาก เช่น ผ่านระบบ E-PAYMENT Payment รับเงินผ่าน Gateway, e-Wallet เช่น ทรูมันนี่ เอ็มเพย์ แรบบิทไลน์ เพย์ ระบบ Big Data & Data Analytics คัดกรองว่าผู้ประกอบการใดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เลี่ยงภาษี เช่นเราจะเห็นได้ว่า มีผู้ขายของไลฟ์สดขายแต่ไม่ได้มีการยื่นภาษีทำให้สรรพากรมีการตรวจสอบและส่งหนังสือไปยังบ้าน ระบบการแจ้งเบาะแส/ข้อมูลแหล่งภาษี ระบบสุ่มตรวจ ระบบดึงข้อมูลจากเว็บต่างๆ หรือ Web Scraping ดึงยอดขายสินค้า ราคา ของสินค้าร้านของเราจากแพลตฟอร์มช้อปของออนไลน์
ทั้งนี้การยื่นภาษีให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ นอกจากจะได้ช่วยสนับสนุน การพัฒนาประเทศแล้ว สี่ยังเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ดี และและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลังต่อไป และต้องจำไว้ว่า “เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายเป็นความจริง”
Written by Freelance Fastwork: Thanakorn
สนใจจ้างงานฟรีแลนซ์ได้ที่ https://fastwork.co/user/namonamo23/business-45850337