ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในยุคดิจิตัลปัจจุบันนั้น เว็บไซต์ถือเป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจออนไลน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขายของ จองบริการ หรือเป็นช่องทางการติดต่อให้กับธุรกิจหรือแบรนด์
และสิ่งที่เจ้าของเว็บไซต์ทุกคนให้ความสำคัญ คือดีไซน์ที่สวย สะดุดตา และเป็นที่น่าจดจำ ซึ่งโดยส่วนใหญ่นั้น ก็จะมองแค่ที่น่าตา และลืมไปว่า แท้จริงแล้วนั้น เว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนพนักงานขายที่จ้างมาเพื่อทำการขายสินค้าและบริการของเรานั่นเอง เพราะการทำเว็บไซต์ ก็จะต้องมีการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ค่าจ้างคนทำเว็บ หรือค่าโดเมนหรือชื่อเว็บที่ต้องเสียเป็นรายปีเองก็ตาม เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของเว็บไซต์ที่ดี ไม่ได้มีเพียงแค่ดีไซน์ที่สวยงาม แต่เว็บต้องสามารถทำกำไร คืนเงินที่เราลุงทุนไปด้วย
ในบทความนี้ ผมจะมาอธิบายสิ่งที่คนต้องการทำเว็บไซต์ควรที่จะคำนึงถึงเวลาที่ต้องการทำเว็บ ไม่ว่าจะเป็นไปจ้างทำกับบริษัทหรือฟรีแลนซ์ก็ดี หรือจะลงมือทำเองก็ตาม
1. ความเร็วเว็บไซต์
สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจในการทำเว็บไซต์ คือความเร็วการเข้าใช้งานเว็บ ที่จะต้องโหลดเร็ว ไม่อืด เพราะลองคิดดูครับ ครั้งสุดท้ายที่คุณยอมนั่งรอ 5-10 วินาทีเพื่อที่จะให้หน้าเว็บใดเว็บนึงโหลดเสร็จนั้น ครั้งสุดท้ายเมื่อใหร่ ผมรับประกันได้เลยว่า ในยุคที่ทุกคนต้องการอะไรรวดเร็ว ทันใจสมัยนี้นั้น คงแทบไม่มีใครนั่งรอแน่นอนครับ ต่อให้เว็บนั้นเป็นเว็บที่มีดีไซน์ที่สวยงาม แปลกใหม่แล้วก็ตาม
การทำเว็บไซต์ให้โหลดเร็วนั้น หลักๆ จะขึ้นอยู่กับโฮสติ้ง (ที่เก็บไฟล์เว็บของเราให้สามารถเข้าถึงบนอินเทอร์เน็ตได้) ที่ใช้ และจำนวนของ Element (ไอเท็มต่างๆ ที่อยู่บนหน้าเว็บ เช่น ภาพ คำเขียน ไอคอน และรวมไปถึง อนิเมชั่นต่างๆ)
จากประสบการณ์ทำเว็บไซต์มามากกว่า 4 ปี ปัญหาที่ผมพบเจอมากที่สุดคือ การที่ลูกค้าต้องการให้หน้าเว็บมีลูกเล่น มี Element เยอะๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมากเกินความจำเป็น ซึ่งนำมาสู่ความเร็วเว็บที่ช้าลง เพราะหน้าเว็บต้องโหลดอะไรเยอะขึ้น หรือการเลือกใช้บริษัทโฮสติ้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีลิมิตในการใช้งาน
2. ความสะดวกในการใช้งาน
สิ่งต่อไปที่ทุกคนที่ต้องการทำเว็บควรให้ความสำคัญ คือความสะดวกในการใช้งานหน้าเว็บ ซึ่งหลักๆ ก็จะขึ้นอยู่การรองรับการใช้งานผ่านทุกขนาดหน้าจอ หรือ Responsive เช่น มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ และ ประสบการณ์การใช้งานบนหน้าเว็บ หรือ User Experience นั่นเอง
ในเรื่องของ Responsive นั้น แพลตฟอร์มการทำเว็บส่วนใหญ่สมัยนี้ก็จะรองรับอยู่แล้วโดยมาตรฐาน เช่น WordPress Wix หรือแม้กระทั่งโค๊ดต่างๆเวลาเขียนเว็บเองก็ตาม แต่ประสบการณ์การใช้งาน เป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่นั้นมองข้าม และถือเป็นข้อผิดพลาดที่สำคัญ
ประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ หลักๆ จะพูดถึง 4 หมวด นั่นคือ
- Usable หรือความยากง่ายในการใช้งาน – ซึ่งเว็บที่ดี ควรที่จะใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่มี Element หรือฟังก์ชั่นต่างๆ ที่จะกวนใจผู้ใช้งาน
- Desirable หรือความต้องการ – เว็บที่ดี ควรให้ความสำคัญต่อคุณภาพของเนื้อหาและดีไซน์ เช่น ภาพที่ใช้ หรือโทนสีที่สื่อถึงอารมณ์ที่ต้องการสื่อถึงผู้ใช้งาน ไม่ใช่เน้นแค่ความสวยงาม
- Findable หรือการเข้าถึง – เว็บไซต์ที่ดี ควรมีโครงสร้างที่ง่ายต่อการใช้งาน สามารถเข้าถึงส่วนต่างที่สำคัญๆ บนเว็บได้ง่าย
- Accessible หรือ การเข้าใช้งาน – เว็บไซต์ที่ดี ควรที่จะรองรับการเข้าใช้งานโดยผู้คนทุกกลุ่ม เช่น คนพิการทางด้านสายตา
3. มีเนื้อหาที่ครบถ้วน สามรถสร้างความน่าเชื่อถือและชวนเชื่อได้
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เว็บไซต์นั้นก็เปรียบเสมือนพนักงานของเรา และสิ่งสำคัญสำหรับการปิดการขาย คือ ความไว้วางใจของลูกค้าที่มีในตัวสินค้าหรือบริการของเราและความสามรถในการชักชวนให้ลูกค้าซื้อนั่นเอง
เชื่อหรือไม่ การที่เว็บไซต์เรานั้น มีดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่น แทบไม่ได้ช่วยในเรื่องการปิดการขายได้เลย แต่เป็นที่เนื้อหาของเราต่างหาก ความสมบูรณ์ของเนื้อหา ความชัดเจน การนำเสนอต่างๆ บนหน้าเว็บต่างหาก ที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดให้ลูกค้าทำการซื้อหรือติดต่อมาหาเรา
ตัวอย่างเช่น ตัวเว็บไซต์ได้มีการใส่รีวิวสินค้าแล้วหรือไม่ เวลาเขียนเนื้อหา ได้พูดถึงสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมั๊ย หรือแค่พูดถึงแต่สรรพคุณของสินค้าเราเพียงอย่างเดียว มีข้อมูลติดต่อที่ชัดเจนหรือไม่ ทั้งหมดนี้ ก็จะอยู่ในเทคนิคที่เราเรียกว่า Web Copywriting นั่นเอง ซึ่งผมก็แนะนำให้ผู้อ่านไปลองค้นคว้าหาข้อมูลดูได้
4. รองรับการทำการตลาดแบบครบวงจร
สิ่งสุดท้ายที่คนที่ต้องการทำเว็บควรที่จะคำนึงถึงก่อนที่จะเริ่มสร้าง คือความสามารถของตัวเว็บไซต์ที่จะรองรับการทำการตลาด ซึ่งหากไม่มีการทำตลาดแล้วละก็ เว็บไซต์ก็เป็นได้แค่นามบัตรดิจิตัลที่เอาไว้แสดงให้คนที่รู้จักธุรกิจเราศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น หากไร้ซึ่งการตลาด เว็บก็ไม่สามารถที่จะดึง Traffic เข้ามาเองได้ ซึ่งถ้าหากพูดถึงการตลาดออนไลน์แล้วละก็ มีช่องทางให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การยิงโฆษณา การทำ SEO (การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับเวลาคนค้นหาสิ่งที่เราให้บริการหรือขายบน Search Engine เช่น Google) การโปรโมตผ่านสื่อ Social Media ต่างๆ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้นั้น เว็บไซต์ของเราควรที่จะรองรับการทำการตลาดแบบครบวงจร สามารถปรับแต่งสิ่งต่างๆ ได้ง่ายเพื่อการตลาดโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น เวลาไปจ้างคนทำเว็บไซต์ คนให้บริการได้ออกแบบเว็บมาให้ถูกหลัก SEO หรือไม่ เพราะบางอย่างเวลาทำเว็บ หากไม่คำนึงถึงปัจจัยทางด้านการตลาดแล้วละก็ หากต้องมาทำการตลาด ก็อาจจะต้องถึงขั้นรื้อทำใหม่เลยทีเดียว
หลังจากที่อธิบายไปข้างต้น หากจะให้สรุปสั้นๆ เว็บที่ดีนั้น ควรที่โหลดเร็ว (เฉลี่ยไม่เกิน 3 วินาที บนมือถือ) ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีเนื้อที่มีคุณภาพครบครัน สื่อสารชัดเจนถึงสิ่งที่ลูกค้าหรือผู้ใช้งานเว็บจะได้รับ และรองรับการทำการตลาดแบบครบวงจร ซึ่งหากจะมองโดยรวม เว็บไซต์ที่ดี ควรที่จะคำนึงถึงผู้ใช้งานก่อนเสมอ โดยที่เราไม่ควรนำความชอบส่วนตัวมาเป็นตัวตั้งตนในการทำเว็บ และควรมีแบบแผนการทำการตลาดที่ชัดเจน หากผู้อ่านสนใจที่จะว่าจ้างบริษัทหรือฟรีแลนซ์เพื่อที่จะมาทำเว็บไซต์แล้วละก็ เวลาขอดูตัวอย่างงาน ก็อย่าลืมเช็คดูสิ่งต่างๆ ที่ได้กล่าวไปด้วยนะครับ อย่าตัดสินใจจากแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว
Written by Freelance Fastwork: Jackie
สนใจจ้างงานฟรีแลนซ์ได้ที่ https://fastwork.co/user/techjackie/web-development-92542045