เมื่อมีการแสดงออกถึงโอกาสความร่วมมือกันทางธุรกิจไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม บันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ถือเป็นคำที่มักถูกพูดถึงกันบ่อย ๆ แม้นี่จะไม่ใช่สิ่งใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นแต่ก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการกำหนดข้อตกลงต่าง ๆ เพื่อโอกาสสร้างผลสำเร็จตามความตั้งใจที่ได้วางแผนเอาไว้ บทความนี้จึงอยากพาทุกคนไปเจาะลึกเกี่ยวกับ MOU ให้มากขึ้น ทั้งเรื่องความสำคัญ และประโยชน์ต่อการทำธุรกิจในในปี 2023 ยังมีสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าอีกเยอะมาก
MOU คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร
Memorandum of Understanding หรือ MOU คือ เอกสารแบบลงลายลักษณ์อักษรเบื้องต้นเพื่อแสดงถึงข้อตกลง เจตจำนง และวัตถุประสงค์แบบไม่มีผลผูกพันตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป แม้ว่าจะไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย แต่ MOU ถือเป็นแนวทางในการกำหนดกรอบความร่วมมือ ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานร่วมกันเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางแผนเอาไว้
ความยืดหยุ่นในการทำงานภายใต้ MOU
ข้อดีอย่างหนึ่งของการทำ MOU ต้องยกให้กับความยืดหยุ่น เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่ไม่มีผลผูกพัน จึงสามารถให้อิสระกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ในการเจรจาต่อรองและปรับเนื้อหาข้อกำหนดจนเหมาะกับความต้องการแบบเห็นพ้องต้องกันทั้งหมด สิ่งนี้ช่วยให้การทำงานร่วมกันของแต่ละฝ่ายได้ผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจและลดความผิดพลาดลงเยอะมาก
องค์ประกอบสำคัญของ MOU
MOU จะมีองค์ประกอบที่สำคัญที่ถูกระบุเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้ เช่น วัตถุประสงค์ของข้อตกลง บุคลากรหรือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ขอบเขตของความร่วมมือ ลำดับเวลา ความรับผิดชอบ และทรัพยากรหรือภาระผูกพันทางการเงิน เป็นต้น องค์ประกอบเหล่านี้คือพื้นฐานในการทำข้อตกลงความเข้าใจร่วมกันกับทุกฝ่าย และช่วยให้การทำงานออกมาราบรื่น น่าพึงพอใจสูงสุด
MOU จุดเริ่มต้นสำคัญของการทำงานร่วมกันอย่างเป็นทางการ
แม้ว่า MOU จะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใด ๆ แต่โดยหลักแล้วมักทำหน้าที่เปรียบได้กับบันไดเพื่อก้าวไปสู่ข้อตกลงอย่างเป็นทางการ ด้วยลักษณะของกรอบการทำงานของแต่ละฝ่ายที่ระบุไว้ชัดเจน อีกทั้งยังช่วยสร้างความไว้วางใจและความสะดวกต่อการพูดคุยแง่มุมสำคัญในฐานะการเป็นหุ้นส่วน อาจเรียกเป็นเอกสารเริ่มต้นสำหรับการเจรจาจนพัฒนาสู่เอกสารสัญญาที่บังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป
ประโยชน์ในการใช้งาน MOU
MOU ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในธุรกิจประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจการร่วมค้า หุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือด้านงานวิจัย ข้อตกลงระหว่างบริษัท ฯลฯ ซึ่งประโยชน์หลักของเอกสารดังกล่าวจะช่วยให้แต่ละฝ่ายประเมินความเหมาะสมก่อนตกลงเป็นหุ้นส่วน และยังลดความเสี่ยงก่อนการยอมรับข้อตกลงทางกฎหมายภายหลังที่เป็นรูปธรรม และต้องรับผิดชอบด้วย
แม้ในปี 2023 การทำธุรกิจยังคงต้องเจอกับปัญหาอีกหลายด้าน แต่เชื่อว่าหากองค์กรไหนมีแนวทางจะร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่างกัน การทำ MOU จะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เสมือนเป็นสารตั้งต้นที่มีความยืดหยุ่นสำหรับการจับมือเพื่อทำงานตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไป ทั้งนี้เมื่อทำความเข้าใจกับรายละเอียดต่าง ๆ ของ MOU ชัดเจนแล้วทุกฝ่ายยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีคุณภาพ