ในสภาพแวดล้อมของธุรกิจในปัจจุบันที่มีการก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพนั้นเปรียบเสมือนกุญแจสู่ความสำเร็จ ทางเดียงที่จะทำให้สิ่งนี้สำเร็จด้วยคือการใช้ Smart Contract (สัญญาอัจฉริยะ) กล่าวคือเป็นสัญญาที่ดำเนินการได้ด้วยตนเองโดยไม่มีตัวกลาง ด้วยการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรงที่ถูกเขียนด้วยโค้ดคอมพิวเตอร์ ในบทความนี้เราจะกล่าวถึง 7 วิธีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจด้วย Smart Contracts
กระบวนการอัตโนมัติ (Automated Processes)
หนึ่งในประโยชน์หลักของ Smart Contract คือการทำงานแบบอัตโนมัติ ด้วย Smart Contract นี้ คุณสามารถทำงานทำกระบวนการที่ทำซ้ำ ๆ หรือใช้เวลาในการทำ ได้แก่ การออกใบแจ้งราคาสินค้า (Invoice) และการชำระหนี้ (Payment) ด้วยการใช้สิ่งนี้จะทำให้คุณประหยัดเวลาและทรัพยากรได้เป็นอย่างมาก เพื่อเอาเวลาไปจดจ่ออยู่กับสิ่งที่สำคัญมากกว่าสำหรับธุรกิจของคุณ
ลดต้นทุน
Smart Contracts สามารถช่วยลดต้นทุนที่สัมพันธ์กับตัวกลาง ได้แก่ นักกฎหมายและธนาคาร คุณสามารถกำจัดตัวกลางเหล่านี้ด้วยการใช้ Smart Contract เนื่องจากข้อตกลงนี้สามารถทำได้โดยตรงด้วยการเขียนลงบนโค้ดคอมพิวเตอร์ และจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
เพิ่มความแม่นยำ
Smart Contracts นั้นอยู่บนพื้นฐานของโค้ดคอมพิวเตอร์ ที่มีความแม่นยำมากกว่าสัญญาแบบดั้งเดิม ไม่มีการเข้าใจความหมายผิดพลาดเนื่องจากข้อตกลงนั้นขึ้นอยู่กับโค้ดที่ถูกเขียน และช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยงในการเกิดการโต้เถียง
เพิ่มความโปร่งใส
Smart Contract มีความโปร่งใส เนื่องจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสัญญานั้นจะเห็นข้อตกลงทั้งหมด ช่วยให้เพิ่มความไว้ใจซึ่งกันและกันในทุกฝ่าย เนื่องจากไม่ต้องมีบุคคลที่สามเพื่อบังคับใช้ข้อตกลงในสัญญา ช่วยลดความเสี่ยงและการหลอกลวง
เพิ่มความปลอดภัย
Smart Contract นั้นอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อคเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความปลอดภัยอยู่ในระดับที่สูงที่สุด ข้อตกลงของ Smart Contract นั้นถูกจัดเก็บอยู่บนเครื่องข่ายที่มีการกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงหรือถูกลบทิ้งได้ ช่วยให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นและลดความเสี่ยงในการโจมตีทางไซเบอร์
บริหารห่วงโซ่อุปทานให้มีความรวดเร็ว
Smart Contracts ยังถูกนำมาใช้เพื่อการบริหารห่วงโซ่อุปทานให้มีความรวดเร็ว คุณสามารถทำให้กระบวนการต่าง ๆ ของการติดตามสินค้าคงคลังและการจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดและความล่าช้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
ทำให้การปฏิบัติตามเป็นเรื่องง่าย
Smart Contracts ยังช่วยให้การปฏิบัติตามเป็นเรื่องที่ง่าย เนื่องจากข้อตกลงของสัญญานั้นถูกเขียนอยู่ในรูปแบบโค้ดคอมพิวเตอร์ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสัญญานั้นมีการปฎิบัติตามข้อบังคับและกฎหมาย ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกปรับและเกิดข้อขัดแย้ง
กล่าวโดยสรุป Smart Contracts มีประโยชน์มากมายสำหรับธุรกิจ ได้แก่ กระบวนการอัตโนมัติ (Automated Processes), ลดต้นทุน, ความแม่นยำ, ความโปร่งใส, ความปลอดภัย, การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการปฏิบัติตาม โดยการนำ Smart Contracts มาใช้ทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ช่วยให้สามารถรักษาการแข่งขันในสภาวะธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง