ในยุคปัจจุบันนี้ ที่สื่อบันเทิงต่าง ๆ พัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้คนเรามีความบันเทิงใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ หนังสั้น ภาพยนตร์ แอนิเมชั่น 2D 3D หรือ motion graphic ก็สามารถที่จะหาดูกันได้อย่างง่าย ๆ แล้ว แต่สิ่งที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ motion graphic เพราะ motion graphic สามารถนำมาใช้เพื่อเล่าเรื่องได้ชัดเจน สื่อสารได้อย่างแม่นยำ ครบจบทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นสื่อการเรียนรู้ของวงการศึกษา การออกแบบเว็บไซต์เพื่อการตลาดออนไลน์ หรือคลิปวิดีโอเพื่อการโฆษณา ใครที่กำลังหลงใหลหรืออยากเริ่มต้นทำ motion graphic ของตัวเองบ้าง ทางเราก็ได้รวบรวมโปรแกรมสำหรับทำ motion graphic มาให้กับคุณแล้ว
การทำ motion graphic ต้องมีทักษะ ความสามารถด้านไหนบ้าง
ผู้ที่ทำ motion graphic หรือ motion graphic designer นั้นจำเป็นต้องผู้ที่มีความรู้ความสามารถในระดับหนึ่ง เนื่องจากการทำ motion graphic ต้องอาศัยความผสมผสานระหว่างภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเข้าด้วยกัน แล้วต้องเล่าเรื่องหรือนำเสนอแนวคิดหลักอย่างชัดเจนให้กับผู้ชมอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจ อยากจะเป็นนัก motion graphic จึงจำเป็นต้องมีทักษะและพัฒนาความสามารถ ดังต่อไปนี้
-
ทักษะในการออกแบบกราฟิก
นัก motion graphic ต้องมีความรู้ความสามารถในการออกแบบภาพนิ่ง แก้ไข ตัดต่อ การจัดสีและจัดวางองค์ประกอบในภาพ
-
ทักษะในการออกแบบภาพเคลื่อนไหว
ทักษะนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักของนัก motion graphic เลยก็ว่าได้ เมื่อมีภาพกราฟิกต่าง ๆ แล้วจะจัดวางให้เคลื่อนไหวอย่างไร ต้องทำอย่างไรถึงจะดึงดูดสายตาผู้ชม และขับเน้นส่วนสำคัญออกมาให้ชัดเจน
-
ทักษะในการเล่าเรื่องหรือนำเสนอ
ทักษะในการเล่าเรื่อง ก็ถือว่าเป็นทักษะสำคัญ เนื่องจากนัก motion graphic ต้องรับแนวคิดหรือใจความสำคัญของเรื่องมา แล้วจัดการเรียบเรียง สร้างสรรค์เรื่องราวให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ชมให้ได้
7 โปรแกรม สำหรับทำ motion graphic ให้งานคุณลื่นไหลตรงใจแน่นอน
-
Adobe After Effects

โปรแกรมอันดับหนึ่งในใจของนัก motion graphic มืออาชีพ ก็คงไม่พ้น Adobe After Effects หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ในวงการว่า AE โดยเป็นโปรแกรมในตระกูลของ Adobe ที่มีไว้สำหรับทำ motion graphic หรือกราฟิกที่เคลื่อนไหวโดยเฉพาะ สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวได้ทั้งแบบ 2D และ 3D อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ ในเครือ Adobe และโปรแกรม motion graphic อื่นได้อีกด้วย
-
Adobe Premiere Pro

โปรแกรม Adobe Premiere Pro ก็สามารถใช้งานในวงการ motion graphic ได้เช่นกัน เพียงแค่โปรแกรม Adobe Premiere Pro หรือ Pr จะมีความโดดเด่นทางด้านการตัดต่อวิดีโอ เอฟเฟต์และเสียงมากกว่า ซึ่งนัก motion graphic มืออาชีพก็จะใช้ทั้งสองโปรแกรมของ Adobe ร่วมกัน หรือในบางครั้งก็จะใช้ Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator ร่วมด้วย เพื่อให้ได้ภาพกราฟิกที่เปี่ยมคุณภาพ
-
Maya

หากใครอยู่ในวงการ motion graphic อยู่แล้ว ชื่อของโปรแกรม Maya ก็คงจะเคยได้ยินกันสักครั้งอย่างแน่นอน เพราะโปรแกรม Maya ถือว่าเป็นโปรแกรมพื้นฐานสำหรับการสร้าง motion graphic, สร้าง Model 3D และแอนิเมชั่นต่าง ๆ ถึงแม้จะมีความโดดเด่นด้านแอนิเมชั่นมากที่สุด แต่ก็สามารถใช้สร้างสรรค์งาน motion graphic ได้ในคุณภาพที่ไม่ด้อยกว่ากันเลย
-
Cinema 4D

Cinema 4D เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในหมู่นักทำ motion graphic เช่นกัน และเป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ง่ายกว่าโปรแกรมอื่น ๆ ที่เคยกล่าวมาข้างต้น ไม่สร้างภาระให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือ PC คุณมากนัก เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเริ่มทำ motion graphic มากกว่าโปรแกรมอื่น ๆ ที่มีไว้สำหรับมืออาชีพ จึงมีความซับซ้อนยุ่งยากและละเอียดอ่อนกว่า Cinema 4D
-
Nuke

Nuke ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรแกรมสากล ที่ทั่วโลกต่างเลือกใช้ ซึ่งโปรแกรม Nuke นี้สามารถใช้ในการออกแบบภาพเคลื่อนไหวผสมผสานระหว่าง 3D และวิดีโอได้อย่างลื่นไหล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่นักแอนิเมชั่นและนัก motion graphic ต่างก็เลือกใช้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโปรแกรมที่ละเอียดอ่อนยิ่งกว่า AE หรือจะเรียกว่าเป็นโปรแกรมสำหรับผู้ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ ทำให้เป็นโปรแกรมที่ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นเป็นอย่างยิ่ง แต่เหมาะกับผู้ที่เคยศึกษาหรือมีประสบการณ์ในการทำ motion graphic มาในระดับหนึ่งแล้ว
-
3ds Max

3ds Max เป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในไทย เพราะเป็นโปรแกรมที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น motion graphic, สถาปนิก, นักออกแบบ 3D หรือนักแอนิเมชั่น ก็สามารถที่จะใช้โปรแกรม 3ds Max สร้างสรรค์งานออกมาได้เช่นกัน เพียงแต่จะมีการแก้ไขสี แสง เงา หรือรูปทรงที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน กว่าจะออกมาเป็นงาน 1 ชิ้นหากเทียบกับโปรแกรมอื่น ๆ
-
Mocha Pro

Mocha Pro เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานร่วมกับ AE และ Pr ของ Adobe ได้ แต่ในตัวโปรแกรมเองก็สามารถที่จะทำงานด้าน motion graphic ได้เช่นกัน แต่เพราะโปรแกรม Mocha Pro มีความโดดเด่นในเรื่องของการตัดต่อวิดีโอและแก้ไขภาพเคลื่อนไหวมากกว่าการทำ motion graphic จึงเหมาะที่จะเป็นโปรแกรมรองหรือโปรแกรมผู้ช่วยหลังจากที่ทำ motion graphic มากกว่า
โดยทั้งหมดนี้คือ 7 โปรแกรมที่ขอแนะนำให้นัก motion graphic ทุกท่านได้ทำความรู้จักและลองใช้กัน รับรองว่าคุณจะสร้างสรรค์ชิ้นงานดี ๆ จากโปรแกรมเหล่านี้ออกมาได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากคุณต้องการคำปรึกษา อยากได้ครูสอนผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญจริง ๆ หรือผู้ช่วยทำงานด้าน motion graphic สามารถมามองหาได้ที่เว็บไซต์ Fastwork เว็บรวบรวมฟรีแลนซ์ชั้นนำจากทั่วประเทศ การันตีความเป็นมืออาชีพ และประสบการณ์การทำงานที่เชื่อมั่นได้ แค่ที่เว็บไซต์ Fastwork เท่านั้น