5 ประเภทคอนเทนต์ อัพยอดขาย ลูกค้าทักหารัว ๆ

5 ประเภทคอนเทนต์ อัพยอดขาย ลูกค้าทักหารัว ๆ

        Content is king ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเสมอไป เพราะคอนเทนต์ที่ใช่ มักกระชากเงินใน กระเป๋าลูกค้ามาให้คุณได้แบบงง ๆ เรียกว่าเป็นการขายแบบไม่ขาย จะว่ายัดเยียดให้ซื้อก็ไม่ใช่ แต่เป็นการใช้ คอนเทนต์ = เครื่องมือ พุ่งเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า โดยจุดหมายปลายทางคือสร้าง ความต้องการ แล้วปิดดิล. ด้วยการที่ลูกค้าทักเข้าไปสอบถาม สั่งซื้อในที่สุด

        ส่วนคอนเทนต์แบบไหนมีส่วนช่วยอัพยอดขาย ดูดเงินในกระเป๋าลูกค้าได้แบบชิล ๆ มาดู 5 ประเภทคอนเทนต์ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ถ้าอยากให้ยอดขายปีนี้ทะลุเป้าที่วางไว้ !

5 ประเภทคอนเทนต์ อัพยอดขาย

1. Storytelling

        จริงอยู่ที่ไม่มีใครอยากฟังเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง แต่ศาสตร์ของคอนเทนต์ที่เรียกว่า storytelling คือการนำเรื่องราวของแบรนด์ สินค้า ที่มาที่ไปมา “เล่า” ให้ลูกค้าฟังอย่างมีศิลปะ บวกกับหาจุดเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์ >> ลูกค้าให้เจอ ข้อดีของคอนเทนต์ประเภทนี้ ไม่เพียง ช่วยสร้างการรับรู้ในแบรนด์ สร้างความรู้สึกให้ลูกค้าเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ แต่ยังเป็น การเพิ่มโอกาสสร้างยอดขาย และสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำในอนาคตอีกด้วย

2. Advertorial 

        advertorial คือตัวอย่างของคอนเทนต์ของการเป็น “ผู้ให้” ก่อนจะเป็นผู้รับที่แท้ทรู เช่น ให้ความรู้, ให้ทางออกของปัญหา, ให้วิธีการ, How to ตลอดจนกลเม็ดเคล็ดลับต่าง ๆ โดยมี การ tie in หรือแฝงโฆษณาสินค้าเข้าไปอย่างเรียบง่าย ไม่ฮาร์ดเซลล์หนักนัก แต่คอนเทนต์ แนว advertorial นี่แหละ มักเข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้าได้อย่างแนบเนียน เพราะเนื้อหาอ่านง่าย นำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ทั้งยังช่วยสร้างยอดขายได้ทันที หากมีการนำเสนอ, ให้ ความรู้ข้อมูลได้แบบเห็นภาพชัดเจน และทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมไปกับคอนเทนต์นั้น 

3. Real-Time Content

        ตอนนี้มีข่าวอะไร ตอนนี้วลีไหนฮิตติดปาก ตอนนี้กระแสไหนมาแรง สามารถเกาะกระแสที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เวลานี้ ได้ด้วยเรียลไทม์คอนเทนต์ คอนเทนต์ที่นอกจากจะอัพยอดขาย ได้แล้ว คอนเทนต์ประเภทนี้ยังช่วยสร้าง engreament ระหว่างแบรนด์ : ลูกค้า ได้เป็นอย่างดี เพียงแต่แบรนด์ / สินค้า ต้องติดสกิลหูไวตาไว อัพเดทข่าวสารอยู่เสมอ จะได้ทำคอนเทนต์ ได้ทันกับกระแสที่กำลังร้อนแรงอยู่ ณ ขณะนี้

4. Q&A คอนเทนต์ถาม – ตอบ

        ใช่หรือไม่ ชัวร์หรือมั่ว จริงหรือเปล่า ทีม A หรือทีม B ฯลฯ นี่คือตัวอย่างของคอนเทนต์ Q&A ที่แบรนด์สามารถใช้เรียก engreament ได้ดีที่สุด ยิ่งถ้าช่วงไหน ยอดขายเริ่มนิ่งไม่ขยับ แล้วอยากอัพยอดขายให้พุ่งพรวดขึ้นมาอย่างไว ลองใช้คอนเทนต์แนว Q&A มาช่วยสร้างสีสัน กวักมือให้ลูกค้าตบเท้าเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ลูกค้า : แบรนด์ให้เกิดขึ้น เมื่อลูกค้ารู้สึกไว้วางใจ สนิทสนมกับแบรนด์ การตัดสินใจซื้อสินค้าจะเกิดขึ้น ได้ไวและง่ายดายกว่าเดิม

5. Checklist content

        เช็กลิสต์คอนเทนต์ เป็นการเปิดประเด็นให้ลูกค้านำเอาเช็กลิสต์นี้ กลับไปสำรวจความต้องการของตัวเอง หรืออีกนัยยะนึงคือการกระตุ้นให้ลูกค้าได้เห็นว่า ในชีวิตประจำวันยังขาด สินค้าใดไปบ้าง / หรือในอนาคตอันใกล้นี้ มีความต้องการ มีแนวโน้มที่จะใช้บริการใดบ้าง ? ข้อดีของคอนเทนต์ประเภทนี้ คือแบรนด์แทบไม่ต้องยัดเยียดข้อมูลสินค้าให้ลูกค้าแบบหนัก ๆ เลย เพราะเช็กลิสต์คอนเทนต์จะทำให้ลูกค้าหันกลับไปสำรวจ ตรวจดูความต้องการของตัวเอง พร้อมกับสร้างความต้องการ ความอยากซื้อสินค้าให้เกิดขึ้นได้อย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะลูกค้า รู้สึกถึงความจำเป็นต้องใช้ ต้องมีสินค้าชนิดนี้ ประเภทนี้ขึ้นมาทันที

บทสรุป

        สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เจ้าของธุรกิจ SME เจ้าของแบรนด์มือใหม่ เจ้าของร้าน ที่กำลังมองหาคอนเทนต์ช่วยอัพยอดขาย สร้างการรับรู้ในแบรนด์ ทำให้สินค้าหรือบริการเป็นที่ รู้จักมากยิ่งขึ้น อย่าพลาดการเลือกใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “คอนเทนต์” เพราะนี่คือคีย์สำคัญใน ยุค 2023 ช่วยดันยอดขายให้พุ่งได้ด้วยการลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่ได้คอนเทนต์คุณภาพไว้ เรียกยอดขายได้ไม่รู้จบ สนใจคอนเทนต์สร้างยอดขาย โดยนักเขียนมืออาชีพ การันตีได้งาน ครบทันใช้ ขอแนะนำแหล่งรวมนักเขียนบทความ คอนเทนต์การตลาด แคปชั่นสร้างยอดขาย  ที่หนึ่งแห่งแหล่งรวมฟรีแลนซ์คุณภาพ ในราคาที่คุณเลือกได้เอง

Written by Freelance Fastwork: aristotoey

สนใจจ้างงานฟรีแลนซ์ได้ที่ https://fastwork.co/user/aristotoey/content-writing-35923038

 

ฟรีแลนซ์ในหมวด Uncategorized

Related Posts
This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.