รวม 5 checklist ตรวจสภาพ เช็ครถมือสองได้ไม่ยาก

รวม 5 checklist ตรวจสภาพ เช็ครถมือสองได้ไม่ยาก

          สำหรับคนวัยทำงานในประเทศของเรา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมาคู่กับการเดินทางและรถยนต์ เพราะการจราจรที่ติดขัด ผู้คนหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างในเมืองใหญ่ต่าง ๆ ที่เมื่อถึงเวลาทำงานและเวลาเลิกงานเมื่อไร มองไปทางไหนก็เห็นรถอัดแน่นเต็มท้องถนน ต้องเผชิญสถานการณ์อันน่าอึดอัดมากมาย ทั้งรถโดยสารที่ไม่มาตรงต่อเวลา อากาศในฤดูร้อนที่ยิ่งกว่าร้อน และไม่สามารถรู้สึกผ่อนคลายหรือส่วนตัวได้ในรถที่แบ่งปันกับคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่ารถมือหนึ่งหลายคันจะดีมีคุณภาพ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับเงินต้นจำนวนมหาศาล ใครที่ขอแค่มีรถขับไปทำงานหรือไปธุระต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลใจ การซื้อรถมือสองจึงเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุด ในวันนี้บทความของเราจึงได้มาแนะนำเกี่ยวกับการตรวจเช็ครถมือสองมาให้คุณกัน 

5 Checklist ในการเช็ครถมือสอง ต้องดูอะไรบ้าง 

          รถมือสองนั้น ก็มีสภาพตามชื่อเลย เป็นรถที่เคยผ่านการใช้งาน หรือผ่านการซื้อมาแล้วหนึ่งครั้ง โดยคุณอาจจะซื้อกับเจ้าของตัวต่อตัว หรือซื้อกับอู่รถมือสองใกล้บ้านก็ได้ ซึ่งรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถวิ่งได้เป็นระยะเวลานาน มีความทนทานต่อสภาพอากาศและการปะทะ ดังนั้นต่อให้เป็นรถที่เจ้าของคนเก่าไม่ต้องการแล้ว แต่ก็สามารถเป็นรถที่ใช้งานได้ดีเช่นกัน มีราคาที่สามารถจับต้องได้ เหมาะสมกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าช่วงทำงาน หรือต้องการรถยนต์มาใช้งานจริง ๆ ใครที่กำลังอยากซื้อหรือต้องการรถยนต์มือสอง โปรดอย่าลืมเช็ครถมือสองตาม 5 ลิสต์ ดังต่อไปนี้ 

  • เช็ครถมือสองจากประวัติย้อนหลัง ✓

          แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมากับสิ่งของมือสองก็คือประวัติ แต่ไม่ได้หมายความถึงเรื่องประวัติขนพองสยองเกล้าอย่างที่หลาย ๆ คนชอบล้อเล่นกัน แต่ให้คุณเช็ครถมือสองด้วยการดูว่าตัวเล่มรถยนต์นั้นตรงกับตัวถังและเลขเครื่องยนต์หรือไม่ มีประวัติการเปลี่ยนเครื่องยนต์กี่ครั้ง เคยถูกดัดแปลงหรือไม่ เคยมีการออกเล่มรถยนต์ใหม่แทนเล่มเก่าหรือไม่ รวมถึงผู้ถือกรรมสิทธิ์ตรงกับเจ้าของคนล่าสุด และเป็นไปตามบัตรประชาชนหรือไม่ 

นอกจากนี้สำหรับการเช็ครถมือสองแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องตรวจดูให้ดีก็คือประวัติรายการภาษีของแต่ละปี หากสีหมึกดูเก่าไปตามปี ก็หมายความว่ามีการเสียภาษีจริง แต่ถ้าหมึกดูใหม่ตัวเล่มรถยนต์ใหม่ผิดปกติ ก็มีโอกาสที่จะถูกย้อมรถขายได้เช่นกัน 

  • เช็คเลขไมล์จากหน้าปัด ✓

          เลขไมล์เองก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเช็ครถมือสองเช่นกัน เพราะเลขไมล์เป็นตัวบ่งบอกว่ารถคันนั้นถูกใช้งานมามากน้อยแค่ไหน หากเป็นรถมือสองปกติทั่วไป ใช้งาน 1 ปี เลขไมล์มักจะอยู่ประมาณ 20,000 – 30,000 กม. (ยกเว้นรถที่เคยเป็นแท็กซี่มาก่อน เนื่องจากมีการใช้งานตลอดเวลา) แน่นอนว่าเลขไมล์ยิ่งน้อยก็ยิ่งดีสำหรับรถมือสอง แต่ก็ไม่ควรดูแต่เลขไมล์บนหน้าปัดเพียงอย่างเดียว เพราะยังมีโอกาสที่ผู้ขายจะปรับเลขไมล์รถยนต์เพื่อต้องการเรียกราคารถสูงขึ้น จึงต้องตรวจอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยว่าเลขไมล์กับสภาพรถนั้นสอดคล้องกันหรือเปล่า

รวม 5 checklist ตรวจสภาพ เช็ครถมือสองได้ไม่ยาก

  • เช็คสภาพตัวถังของรถยนต์ ✓

          การตรวจเช็ครถมือสองแน่นอนว่าสิ่งแรกที่จะสะดุดตาคุณก็คือตัวถังภายนอก แต่อย่างไร หากเห็นเป็นรถสวยใหม่เหมือนไม่เคยผ่านการชน ก็ยังไม่อาจเชื่อไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ตรวจเช็ครถมือสอง ดังนี้ 

    • รูปทรง : สามารถใช้สายตาสังเกตได้ว่าตัวถังของรถมีรูปทรงสมส่วนไหม เอียงหรือเปล่า ช่องไฟของประตูเท่ากันไหม ช่องว่างระหว่างประตูและตัวถังเท่ากันหรือไม่ 
    • สี : สีนี้สามารถเคลือบหรือทำสีให้ดูเหมือนใหม่ได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าคุณลองเคาะดูแล้วมีเสียงโปร่ง ก็แปลว่าไม่เคยผ่านการทำสีมาจริง หากคุณลองเคาะดูแล้วมีเสียงทึบ ๆ กว่า หรือมีรอยคลื่นบนตัวถัง ก็หมายความว่ารถเคยผ่านการทำสีหรือปกปิดจุดที่เคยมีปัญหา 
  • เช็คตะเข็บรอบตัวถัง ✓

          ตะเข็บของรถ ก็คือส่วนที่ยึดติดระหว่างตัวถังและส่วนประกอบอื่น ๆ ไว้ด้วยกัน ถ้าหากคุณเช็ครถมือสอง ก็จำเป็นจะต้องตรวจเช็คสภาพ ดังนี้ 

    • คานหน้ารถ : คานหน้ารถนี้เราสามารถสังเกตได้ว่าหัวน็อตมีร่องรอยของการถอดหรือไม่ มีสติ๊กเกอร์ที่ติดมาจากศูนย์หรือไม่ สีต่าง ๆ ดูใหม่ผิดปกติหรือไม่
    • แก้มข้าง : แก้มข้างคือรอยนูนของหน้ารถทั้งสองฝั่ง ต้องตรวจดูว่ารอยนูนของฝั่งไหนหายไปหรือไม่ 
    • ประตูและขอบประตู : การตรวจเช็ครถมือสองที่ดีควรเช็คขอบประตูทุกบาน ด้วยการดึงซีลยางออกแล้วดูรอยอาร์กกลม ๆ ว่ายังมีอยู่ตามขอบและมีความสม่ำเสมอหรือไม่
    • ตะเข็บหลัง : ทางด้านของตะเข็บหลังหรือกระโปรงรถก็จำเป็นจะต้องมีรอยอาร์กกลม ๆ และรอยนูนทั้ง 2 ฝั่งอย่างเท่ากัน หากไม่มีแปลว่าเคยผ่านการชนมาก่อน

รวม 5 checklist ตรวจสภาพ เช็ครถมือสองได้ไม่ยาก

  • เช็คระบบไฟและระบบทั้งหมด ✓

          ลิสต์สุดท้ายสำหรับการเช็ครถมือสองเลย ก็คือระบบต่าง ๆ ภายในรถทั้งหมด ดังนี้

    • เครื่องยนต์ : ให้ดูว่ามีสภาพคล้ายของเหลวรั่วซึมออกมาหรือไม่ หม้อน้ำสภาพเป็นอย่างไร สายพานและเคเบิลต่าง ๆ เสื่อมหรือใหม่เกินไป รวมถึงเช็คสภาพขั้วแบตเตอรี่ด้วย
    • เกียร์ : หากลองขับแล้วพบว่ามีอาการเกียร์กระตุก เสียงเกียร์ดัง หรือรถไม่เดินไปตามหน้าปัดเกียร์ แปลว่าเกียร์มีปัญหา และไม่ควรซื้อรถมือสองที่เกียร์มีปัญหาอย่างเด็ดขาด
    • ช่วงล่าง : ช่วงล่างให้ลองก้มตรวจสภาพดูว่ามีร่องรอยสนิมหรือผุพังหรือไม่
    • แอร์ : ดูระบบแอร์ว่าใช้ได้ปกติ แอร์เย็น ไม่มีกลิ่นแน่หรือไม่ 
    • ไฟ : ในการตรวจเช็คสภาพควรลองเปิดไฟระบบบนหน้าปัด ไฟหน้ารถ หลังรถ ภายในรถ รวมถึงไฟเบรกให้หมดทุกดวงว่ามีปัญหาหรือไม่ 
    • พวงมาลัย : เมื่อหมุนแล้วมีสภาพเหมือนฝืด ๆ หรือค้างไหม 

          โดยทั้งหมดนี้คือการตรวจเช็ครถมือสอง ที่คุณก็สามารถทำเองได้ง่าย ๆ แต่ถ้าหากต้องการผู้เชี่ยวชาญทางด้านรถยนต์เพื่อมาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการตรวจเช็ครถมือสอง การขายรถ ไปจนถึงอยากได้รถมือสอง ให้คุณลองติดต่อกับฟรีแลนซ์บนเว็บไซต์ Fastwork รับรองว่าเชื่อถือได้จริง มีรับประกันว่าคุณจะไม่โดนโกงแน่นอน

ฟรีแลนซ์ในหมวด ตรวจสภาพรถมือสอง

ฟรีแลนซ์ในหมวด ไลฟ์สไตล์

Related Posts
This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.