4 หนังที่ทำให้เราอยากจับกล้องออกไป “ถ่ายภาพ” มากขึ้น
เวลาเราดูหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งที่เราได้นอกจากความสนุกแล้ว เรายังได้อารมณ์ร่วมไปกับหนัง ที่แม้เราเดินออกจากโรงเราก็ยังซาบซึ้งไปกับมันอยู่ดี เมื่อเราดู Top Guns ก็ทำให้เราอยากเป็นนักบินเครื่องบินรบแบบ Tom Cruise หนังจบเสียงเครื่องยนต์ไอพ่นก็ยังดังกังวานอยู่ในหัวมิรู้ลืม
เราจะพามาดูกับ”หนัง” ที่เมื่อดูเสร็จ อาจทำให้ใจเราโหยหากล้องที่นอนหลับไหลตากฝุ่นอยู่ในบ้าน ให้ออกมาเฉิดฉาย โลดเล่นเฉกเช่นเดียวกับหนังและตัวละครได้ถ่ายทอดออกมาถึงผู้ชม
Low Season สุขสันต์วันโสด
ธรรมชาติจะเยียวยาจิตใจเรา สาวโสดที่เพิ่งอกหัก ได้มาเที่ยวคนเดียวที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลืมเรื่องราวสุดช้ำใจในอดีต รักมันเศร้า ก็ปล่อยมันไปกับสายลมจากธรรมชาติ แต่มีหรือว่าทุกอย่างจะง่ายดายราบรื่น พบกับเรื่องราวสุดป่วนกับเพื่อนร่วมทริปสุดเพี้ยน
หนังเรื่องนี้ทำให้หลายคนตัดสินใจออกไปเดินทางกันนับไม่ถ้วน บ้านดูเลย์เลย์ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ กลายเป็นบ้านพักที่ได้รับความนิยมคนจองคิวเต็มกันเป็นเดือนๆ มีหรือว่าการเดินทางเที่ยวจะไม่มีกล้องถ่ายภาพ? ออกไปตะลุยภาคเหนือของไทยกันได้เลย!!
Into the Wild
หนังสุดติสท์เรื่องนี้น้อยคนจะไม่รู้จัก เรื่องราวของชายหนุ่มผู้แสวงหาอุดมคติที่แท้จริงของชีวิต ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง (ทุกอย่างจริงๆนะ)ออกเดินทางคนเดียวทั่วสหรัฐ และได้พบเจอผู้คนและเหตุการณ์น่าประทับใจมากมาย เรื่องนี้ก็ปลุกความเป็นนักเดินทางไม่แพ้เรื่องแรกเลย ใครที่ดูต้องบอกเลยว่าหากมีกล้องสักตัว ต้องได้ภาพสวยๆน่าประทับใจแถมเรื่องราวคู่กับภาพที่ตราตรึงไม่รู้ลืมกันเลยทีเดียว
The Secret Life of Walter Mitty
หนีไม่พ้นเรื่องนี้หรอกนะ เพราะกระแสในโซเชียลที่ว่าภาพเสือหิมะบนภูเขาที่กำลังเป็นประเด็นกัน มันมีพื้นเพมาจากหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของตัวเอกที่เป็นเจ้าหน้าที่ห้องฟิลม์ของนิตยสารแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องออกเดินทางไปหาช่างภาพคนหนึ่งเพื่อเอาม้วนฟิลม์จากเขา เพราะเขาต้องใช้มันในการตีพิมพ์ภาพลงนิตยสาร ซึ่งช่างภาพคนนี้ก็เป็นคนที่สันโดษมากๆ โดยได้มาเจอกันระหว่างที่เขากำลังจะถ่ายภาพเสือหิมะบนภูเขา แน่นอนว่ามันยากมากๆ ไม่ใช่ทุกคนจะได้เห็นเสือตัวนี้ เพราะมันก็เป็นสัตว์ที่ไม่ออกมาให้ใครเห็นสักเท่าไหร่ ทำให้เห็นความพยายามในการถ่ายภาพๆหนึ่งได้ดีเลยทีเดียว การจะได้ภาพที่ดี มันก็ต้องแลกมาด้วยความพยายามอันสูงส่ง
City of God
มาต่อกันกับหนังสุดเถื่อน เรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครเอกที่เป็นเด็กในชุมชนแออัด ที่แวดล้อมไปที่ยาเสพติดและอาชญากรร ซึ่งตัวเอกเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ จนในที่สุดได้มีโอกาสได้เป็นช่างภาพของหนังสือพิมพ์ที่อายุน้อยที่สุด จากการตีแผ่เหล่าแก๊งค์ค้ายานรกที่มีอิทธิพลโดยบังเอิญ นำไปสู่สงครามกลางเมืองสุดนองเลือด
ขึ้นชื่อว่าการถ่ายภาพนั้น อารมณ์ของภาพย่อมหลากหลาย หนังเรื่องนี้เมื่อดูแล้วส่วนตัวทำให้เห็นว่า การที่ตัวเอกนั้นมีนิสัยชื่นชอบการถ่ายภาพ พกกล้องติดตัวไปตลอด และโอกาสนั้นมันอยู่รอบตัวเราเสมอ หากเราถือกล้องเดินไปนอกบ้าน บางทีโอกาสและจังหวะภาพเปลี่ยนชีวิตของเราอาจโผล่อยู่ตรงหน้าได้
Written by Freelance Fastwork: พัชรพล
สนใจจ้างงานฟรีแลนซ์ได้ที่ https://fastwork.co/user/jollymolly/photography-39743775






