3 เหตุผลที่ควรมีนักออกแบบตกแต่งภายใน ( Interior Designer )

reason-hire-architect-and-interior

3 เหตุผลที่ควรมีนักออกแบบตกแต่งภายใน ( Interior Designer )

architect-and-interiorเนื่องด้วยทุกวันนี้การที่เราจะซื้อ บ้าน,คอนโด หรือแม้กระทั่ง ต้องการที่จะทำธุรกิจที่เกี่ยวกับร้านอาหาร,คาเฟ่,คลินิก หรือต้องการที่จะปรับปรุงส่วนต่างๆของบ้าน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีที่ปรึกษาทางด้านการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของ สถาปัตยกรรม หรือด้าน วิศวกรรม ล้วนสำคัญต่อการสานฝันของเจ้าของบ้านหรือเจ้าของโครงการทั้งนั้น ซึ่ง แต่ละสายงานก็จะมีหน้าที่ของตนเอง ไล่เรียง เป็นลำดับ ทั้งนี้ ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการออกแบบตกแต่งภายใน นั้นเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องด้วยผู้ที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็น ดารานักแสดง,นักร้องนักดนตรี,ยูทูปเบอร์,หรือเหล่า influencer ล้วนต่างมีแรงผลักดันให้ผู้ติดตามได้เห็นว่าการมีที่ปรึกษาหรือการมีนักออกแบบ ที่มาช่วยลดภาระการตัดสินใจและแก้ปัญหาต่างๆ ตั้งแต่เริ่มจนจบ จะดีกว่าการที่เจ้าของบ้านลงมาทำเองซะส่วนใหญ่ เนื่องด้วย เวลา,ประสบการณ์ทำงานที่เฉพาะทางและการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นที่หน้างานนั้นมีผลต่องบประมาณ ซึ่งอาจจะทำให้งบนั้นบานปลายได้  จึงเป็นที่มาของ 3 เหตุผลที่ควรมีนักออกแบบตกแต่งภายใน ( Interior Designer ) ดังนี้

1.มีภาพในหัวแต่ไม่รู้จะทำออกมายังไง จะสื่อสารกับช่างยังไง ?

      เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตกของเจ้าของบ้านหลายคน เพราะเนื่องจาก จินตนาการไม่ออกถึงความ เหมาะสมทั้งเรื่อง ขนาดของห้องและความสวยงาม ตรงนี้จึงเกิดการบรีฟรายละเอียดงานเบื้องต้นเพื่อนำข้อมูลมาทำแปลน หรือ การวางตำเเหน่งเฟอร์ต่างๆตามความเหมาะสม และจึงจะเป็นการทำภาพ 3D เพื่อให้เห็นภาพองรวมบรรยากาศทั้งหมด

 

2.ต้องเลือก โซฟาสีไหน ผ้าม่าน และ กระเบื้องลายไหนดี ?

      เมื่อเรามีการวางตำเเหน่งต่างๆของเฟอร์นิเจอร์แล้ว การหยอดสีหรือการเลือกวัสดุ สี ต่างๆ ก็จำเป็นอย่างมากเพื่อให้องค์ประกอบนั้นครบถ้วน ซึ่งทาง ดีไซน์เนอร์ จะเป็นคนจับกลุ่มโทนสี หรือที่เรียกว่า Mood & Tone ให้ลูกค้าดู พร้อมแนบ References เพื่อเป็นการไกด์แนวทางให้เจ้าของบ้านดูว่าเราจะออกแบบไปในทิศทางประมาณไหน รวมไปถึงของตกแต่งบ้าน

architect-and-interior

3.จำเป็นไหมถ้าไม่มีแบบก่อสร้างบิ้วอินท์ มีเเค่ภาพ 3D อย่างเดียวช่างทำได้แล้วนี่ ?

      สำหรับผมแล้ว จำเป็นอย่างมากเพราะถ้าหากพูดถึงความถูกต้องของงานแล้ว ต่อให้มีภาพ 3D ที่ชัดและหลายมุมแค่ไหนเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าทางดีไซน์เนอร์นั้นคิดอะไร เหตุผลเป็นยังไงได้เลย ซึ่งในแบบก่อสร้างจะมีขนาด วัสดุ และ ดีเทล ทั้งหมด อยู่ในนั้น ตรงนี้จะช่วยให้ช่างทำงานง่ายขึ้นมากและปัญหาการทำผิดแบบจะไม่มี หรือ น้อยมาก ส่วนอีกเรื่องคือปลอดภัยในการฟ้องร้องถึงเรื่องการทำผิดแบบของผู้รับเหมา เมื่อช่างทำผิดแบบแล้วไม่แก้ตามแบบจนส่งมอบงาน เจ้าของบ้านสามารถ ฟ้องร้องได้โดยใช้แบบก่อสร้างนำมาเป็นหลักฐานได้ แต่ถ้าหากมีดีไซน์เนอร์ เข้ามาช่วยตั้งแต่ต้น ปัญหานี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเพราะก่อนจะมีการส่งมอบงาน ทางดีไซน์เนอร์จะมีการมาตรวจแบบเป็นระยะ ถ้าหากมีปัญหาเช่น ช่างทำผิดแบบ ทางดีไซน์เนอร์จะเเจ้งกับทางผู้รับเหมาที่เป็นคนคุมงานรีบแก้ไขโดยทันทีก่อนที่ช่างจะเริ่มขั้นต่อไป

architect-and-interior

Written by Freelance Fastwork: Panithan

สนใจจ้างงานฟรีแลนซ์ได้ที่ https://fastwork.co/user/panithanem/architect-and-interior-78637198

ฟรีแลนซ์ในหมวด Uncategorized

Related Posts
This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.