แน่นอนครับว่าก่อนที่เราจะมาลงงานกับทาง Fastwork กลายเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว เราก็ต้องมีทักษะความสามารถในการทำงานให้ออกมาสำเร็จตามมอบหมายได้ ต้องเก่งในด้านใดด้านหนึ่งก่อน ซึ่งทักษะการทำงานที่ดีจะทำให้ได้ผลงานที่ลูกค้าพึงพอใจ แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าสำหรับฟรีแลนซ์ที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตจริงๆ ทักษะแค่นั้นมันยังไม่พอนะ มาดูกันว่ามีอะไรที่บ้างที่ฟรีแลนซ์อย่างเราต้องรู้
เพราะฟรีแลนซ์ที่ดีต้องมีทักษะเสริมอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งทักษะเสริมเหล่านี้มันแอบแฝงอยู่ในทุกขั้นตอนการทำงานโดยที่เราหลายคนไม่รู้ตัวเลยล่ะ แต่ทักษะเหล่านี้จะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลย
สื่อสารให้รู้เรื่อง
เรื่องของทักษะการสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเลยล่ะครับในการทำอาชีพฟรีแลนซ์ เพราะเราต้องติดต่อดีลงานกับลูกค้าด้วยตัวเองทั้งหมด การพูดคุยแบบถูกคอ ถูกใจ จะยิ่งช่วยให้ขายงานได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Ben Rogers ผู้จัดการของบริษัทด้านการเขียนให้คำแนะนำเรื่องนี้ว่า…
“ลูกค้าบางคนก็พูดไม่รู้เรื่อง บางคนก็พูดภาษาเราไม่ได้ ทำให้การเข้าใจอาจคลาดเคลื่อน ดังนั้นเราในฐานะฟรีแลนซ์ ต้องมีทักษะการสื่อสารที่รอบคอบ ถามลูกค้าอย่างตรงประเด็น เพื่อให้รู้ว่าจริงๆ แล้วลูกค้าต้องการอะไรกันแน่”
ปัญหานี้เกิดขึ้นได้ตลอดแหละครับ เพราะลูกค้าหน้าใหม่มักจะไม่รู้ว่าตัวเองต้องให้ข้อมูลอะไรกับเราบ้าง ดังนั้นเราเองที่ต้องเป็นคนถามเค้าเอง ดูว่าเวลาทำงานเราต้องใช้ข้อมูลอะไรบ้างจากลูกค้า ก็ถามเค้าเอา เช่น Mood & Tone รายละเอียดต่างๆ ข้อมูลสินค้า หัวข้อที่ลูกค้าอยากได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การทำงานของเราง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
จัดการกับความเครียดให้เป็น
ต้องบอกว่าวงการฟรีแลนซ์เนี่ยโหดกว่าที่คิดเยอะครับ แถวนี้เถื่อนมาก ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้นะบอกไว้ก่อน เพราะต่อให้เราทำงานดีแค่ไหน ก็จะมีคู่แข่งตัวดีมาคอยตัดราคาแย่งลูกค้าเราไปอยู่ดี จนคุณอาจจะสงสัยเลยว่า ‘ขายงานราคานี้ เอาอะไรไปคุ้มกับเวลาที่เสียไปเนี่ย’ ซึ่งนี่เป็นแค่ 1 ในเรื่องปวดหัวเท่านั้นนะ
เพราะในความเป็นจริงยังมีอะไรให้เครียดอีกเยอะ ทั้งลูกค้าเก่าหายไป ทั้งได้เรตติ้งไม่ดี ทั้งโดนลูกค้ากดราคา โอ๊ยสารพัดความเครียดไปหมด ซึ่งความเครียดเหล่านั้นจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจ สุดท้ายการทำงานฟรีแลนซ์ก็จะกลายเป็นงานประจำที่เราต้องเสียเวลาทั้งวันจมอยู่ในห้อง ไม่ต่างกับการทำงานออฟฟิศสักเท่าไหร่
ถ้าเราไม่รู้จะจัดการกับความเครียดเหล่านี้ให้หมดไป สักวันคุณจะเป๋เพราะไม่อยากตื่นมาทำงาน ตื่นมาเจอกับความเครียดเหล่านี้แน่นอน เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ทำในสิ่งที่ชอบต่อไป หาเวลาว่างให้กับตัวเองบ้าง อย่าลืมว่าเราทำงานฟรีแลนซ์ ข้อดีของมันคือความยืดหยุ่น ใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ แล้วจะพบว่าความสุขของเราสามารถเอาชนะความเครียดได้ไม่ยากเลย
บริหารตัวเองให้ได้
หลายคนชอบคิดว่างานฟรีแลนซ์สบาย จะทำงานตอนไหน ที่ไหนก็ได้ ตื่นสายก็ได้ เริ่มงานบ่ายๆ ยังได้เลย ซึ่งมันก็จริงแหละครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้น แต่นั่นเป็นความคิดของฟรีแลนซ์ทั่วไปเท่านั้นแหละ เพราะถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้จริงๆ เราก็ต้องทุ่มเท และจริงจังกับมันเหมือนกับอาชีพอื่นๆ อยู่ดี
ต้องมีตารางเวลาการทำงานที่แน่นอน วันนี้จะทำงานอะไรบ้าง กี่ตัว ทำกี่โมงถึงกี่โมง ยิ่งเราจัดระเบียบได้ดี ชีวิตเรายิ่งมีความสุข และเมื่อทำงานเสร็จได้ไว ก็รับงานต่อไปได้เร็วขึ้น ส่งผลให้ได้เงินเยอะตามมา
เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม วิถีชีวิตเรา เราเป็นคนกำหนดเอง ขอแค่สามารถทำงานได้ทันเดตไลน์ จะเริ่มทำงานตอน 4 ทุ่ม หรือตื่นมันบ่ายโมง ก็ไม่มีใครว่า
เพื่อนๆ สามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยบริหารจัดการตัวเองให้ทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย :
Google Calendar – ช่วยให้เราจัดตารางชีวิตได้ง่ายขึ้น ลงวันส่งงาน เห็นภาพกว้างในการทำงาน
Remember The Milk – ช่วยจด To-Do List ผ่านแอปให้เรารู้ว่าในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง
Focus Booster – ตัวช่วยจัดการไม่ให้เราเล่นเพลินเกินเวลาทำงาน แอปจะเตือนให้เราพัก และเตือนให้กลับไปทำงานเมื่อครบเวลา
แก้ปัญหาให้ถูกจุด
ทักษะการแก้ปัญหาก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ฟรีแลนซ์ต้องมี เพราะทุกการทำงานสามารถเกิดปัญหาขึ้นได้ตลอดเวลา มีหลายงานที่โดนลูกค้าสั่งแก้ ไม่โดนใจ หรือไม่ตรงความต้องการ ตรงนี้เราต้องสามารถวิเคราะห์ แยกแยะออกมาได้ว่าจุดไหนที่เราพลาด และแก้ไขให้ถูกต้อง
บางทีเราอาจจะไม่เข้าใจบรีฟของลูกค้า เราอาจจะทำงานไม่ทันเดตไลน์ เราอาจจะทำงานได้ไม่ตรงความต้องการ เราต้องมีวิธีจัดการกับปัญหานี้ทั้งหมด ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคือ คุยกับลูกค้าตรงๆ ถึงเหตุผล และความต้องการของเรา การปิดบังลูกค้าโดยอ้างนู่นอ้างนี่มีแต่จะทำให้เสียเครดิต และความเชื่อใจ คุยกันตรงๆ นี่แหละครับเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
ประเมินราคาให้สมเหตุสมผล
ทักษะนี้สำคัญกับตัวเราเองนะ เพราะยิ่งเรามีประสบการณ์การทำงานที่มากเท่าไหร่ เราจะยิ่งรู้ว่าเรตราคาของแต่ละชิ้นงานควรมากหรือน้อยแค่ไหน ซึ่งมันจะช่วยให้เราสามารถรับงานที่สมเหตุสมผลได้ดีขึ้น ไม่เปลืองเวลากับค่าตอบแทนที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น และการบอกเล่าถึงประสบการณ์การทำงานของเราก็จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่าเราสามารถทำงานของเค้าให้ออกมาดีได้แน่นอน
ทักษะเหล่านี้แค่มีไว้อย่างเดียวไม่พอนะครับ เราต้องพัฒนามันต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งมันจะช่วยให้ฟรีแลนซ์ทุกคนสามารถก้าวสู่จุดสูงสุดได้อย่างแน่นอน ทั้งช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ทำงานเสร็จไวขึ้น ได้รับเงินมากขึ้น ปิดจ็อบลูกค้าได้เยอะขึ้น ทุกอย่างเป็นผลพวงมาจากการพัฒนาทักษะเสริมเหล่านี้นี่แหละ