การคัดเลือกบุคลากรเข้าสู่องค์กร หลายๆ คนมักมุ่งความคาดหวังทั้งหมดไปที่ฝ่ายบุคคล หรือ HR เนื่องจากฝ่ายบุคคลถือเป็นด่านแรกที่จะได้สัมผัสกับผู้สมัครงาน แต่บางครั้งองค์กรก็ประสบปัญหาได้ “คนไม่ตรงกับงาน” หรือ “งานไม่ตรงกับคน” ซึ่งข้อนี้ก็นำมาสู่หลายๆปัญหาในภายหลัง ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกองค์กรพยายามกดดันให้ฝ่ายบุคคล สรรหาบุคลากรที่ความสามารถตรงกับตำแหน่งงานมากที่สุด
ในปัจจุบันลักษณะการทำงานมีหลากหลายขึ้น ทั้งงานประจำ งานพาร์ทไทม์ และงานอิสระที่เรียกกันว่า “ฟรีแลนซ์” (Freelance) ดังนั้นสิ่งที่ฝ่ายบุคคลควรพิจารณาเป็นอันดับแรกไม่ใช่แค่เกรดหรือมหา’ลัยของผู้สมัคร แต่สิ่งสำคัญที่สุดควรคำนึงถึงประเภทของการจ้างงานให้ตรงกับลักษณะงานก่อนต่างหาก วันนี้เรามีเทคนิคในการเลือกคนให้ตรงงาน เพื่อให้ได้งานที่ตรงใจคุณที่สุด ดังนี้
1. พนักงานประจำ
ลักษณะการทำงานมีระยะเวลาที่แน่นอน เช่น พนักงานบริษัทเอกชน ระยะเวลาในการทำงาน 8 ชั่วโมงตามกฎหมายกำหนด ซึ่งพนักงานในกลุ่มนี้เบื้องต้นจะพิจารณาจากคณะ/สาขาที่เรียนมา หรือประสบการณ์การทำงาน ให้ตรงกับตำแหน่งงานมากที่สุด แต่การเลือกพนักงานก็ยังมีองค์ประกอบอีกหลากหลายด้าน เช่น นิสัย บุคลิก ทัศนคติกับงานและองค์กร เมื่อผ่านการพิจารณาขั้นแรกแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการทดลองงาน บริษัททั่วไปจะมีช่วงเวลาทดลองงานที่ 119 วัน เนื่องจากกฎหมายระบุว่าหากลูกจ้างมาทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แล้วมีการเลิกจ้าง บริษัทจะต้องจ่ายค่าชดเชยนั่นเอง
บริษัทควรให้ความชัดเจนเรื่องรายละเอียดการทำงานและสวัสดิการ และค่าตอบแทนตั้งแต่แรก ทั้งนี้การสร้างแรงจูงใจในการทำงานก็สำคัญไม่น้อย เชื่อว่าเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการมาเป็นอันดับ 1 แต่องค์กรก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องสิ่งตอบแทนด้านอื่นๆ เช่นกัน เช่น โอกาสการเติบโตในสายงาน ให้โอกาสในการพัฒนาตนเอง การจัดอบรม สัมมนาให้กับพนักงาน รวมถึงการให้ความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
2. พนักงานพาร์ทไทม์
การคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานพาร์ทไทม์ ซึ่งโดยส่วนมากมักเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องการหารายได้เสริม งานพาร์ทไทม์เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการทำงานในระยะเวลาหนึ่งๆ ไม่ตลอดทั้งวัน ในส่วนของภาระหรือความรับผิดชอบก็ไม่ต่อเนื่องเท่าผู้ที่ทำงานประจำ ลักษณะการทำงานในกลุ่มนี้มักจะเป็นงานด้านอาหารและบริการ เช่น พนักงานเสิร์ฟ แคชเชียร์ พนักงานโรงภาพยนตร์ เป็นต้น
การจ้างงานประเภทนี้อาจจะพิจารณาจากสาขาที่เรียนไม่ได้ สิ่งที่ควรพิจารณาคือ ทักษะความสามารถเฉพาะที่ตรงกับตำแหน่งงานนั้นๆ เช่นอทดสอบทักษะการคิดคำนวณกับพนักงานแคชเชียร์ ทดสอบทักษะการสื่อสาร ทักษะภาษากับพนักงานต้อนรับ หรือการทดสอบทักษะขั้นสูง เช่น ทักษะทางภาษาต่างประเทศ/ คะแนน TOEIC, IELTS เป็นต้น
ส่วนการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานพาร์ทไทม์ โดยส่วนใหญ่พนักงานมักจะคาดหวังในเรื่องสวัสดิการและค่าตอบแทนระยะสั้น ค่าตอบแทนมันจะให้เป็นรายชั่วโมง อาจจะแตกต่างกันตามช่วงวันและเวลา เช่น ๅวันหยุดค่าตอบแทนจะสูงเพื่อจูงใจให้พนักงานทำงาน เป็นต้น
3. ฟรีแลนซ์
สายงานฟรีแลนซ์มีหลากหลายสาขา เช่น กราฟิก ถ่ายภาพ นักเขียน ติวเตอร์ บล็อกเกอร์รีวิว ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ เป็นต้น
ในปัจจุบันมีหลายองค์กรหันมาใช้บริการฟรีแลนซ์มากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายถูกกว่าจ้างพนักงานประจำหนึ่งคน หรือสามารถพูดคุยกันได้อย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งการจ้างฟรีแลนซ์ก็มีความยืดหยุ่นทั้งเรื่องระยะเวลาการทำงาน และการสื่อสารก็สามารถสื่อสารด้วยภาษาง่ายๆ สามารถตกลงราคากันได้จนกว่าจะพอใจ
บางคนอาจจะมองว่าฟรีแลนซ์เป็นงานปราศจากความกดดัน หรือมีอิสระในการทำงาน หากแต่งานในกลุ่มนี้เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะความสามารถค่อนข้างสูง และเผชิญความกดดันค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นงานที่ต้องสื่อสารกับผู้ว่าจ้างด้วยตนเอง และระยะเวลาการทำงานค่อนข้างแน่นอนและจำกัด
ทำให้ฟรีแลนซ์จำเป็นต้องรักษามาตรฐานการทำงานและรักษาความน่าเชื่อถือให้มาก ดังนั้นผู้ว่าจ้างควรมีความชัดเจนในเรื่องรายละเอียดการทำงาน ค่าตอบแทน และระยะเวลาการทำงาน เมื่อเราพบกับฟรีแลนซ์ฝีมือดี ควรสร้างแรงจูงใจในการร่วมงานกันต่อไป เช่น มีความเป็นกันเอง ให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม มีความยืดหยุ่นในการทำงาน และเมื่อฟรีแลนซ์สามารถทำงานให้กับเราได้ดีและมีคุณภาพตรงใจ อาจมีค่าตอบแทนพิเศษให้กับฟรีแลนซ์ เป็นต้น
สำหรับวิธีการเลือกจ้างฟรีแลนซ์ สามารถตรวจสอบได้โดยดูจากผลงานที่ผ่านมา หรือสอบถามจากผู้ที่เคยจ้างงาน ซึ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่สามารถหาฟรีแลนซ์ได้ง่ายๆ เช่น Fastwork.co เป็นต้น
ก่อนการคัดเลือกคนทำงานของแต่ละองค์กร ควรจะใช้ข้อมูลหรือองค์ประกอบหลายๆ ด้านมาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ได้คนตรงงาน และได้งานตรงใจ ทุกสายงานยังต้องการความเป็นมืออาชีพในการทำงาน เรื่องค่าตอบแทนก็สำคัญ หากแต่ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น เป็นกันเองก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้ทำงานมองข้าม หลายองค์กรอยู่ได้เพราะมีระบบการทำงานที่เหมือนครอบครัว คนทำงานมีความรักความอบอุ่นที่มอบให้แก่กัน เกิดเป็นความผูกพันกับองค์กร นำมาสู่การทำงานด้วยจิตสำนึกที่ดี และส่งมอบผลงานที่มีคุณภาพให้กับองค์กร
________________________________________________
เริ่มทำฟรีแลนซ์วันนี้ที่ https://drive.google.com/open?id=0B8xRgyC3rD8YQXJsSVRweXI3bFU 😉
