มักมีคนพูดเสมอเวลาที่เราคิดอะไรไม่ค่อยออกให้ทำตัวสบายๆ และไม่คิดมาก ลองหาอะไรทำ เช่น ฟังเพลง เป็นต้น ข้อดีของการฟังเพลงทำให้เราเพลิดเพลินและลืมบรรยากาศรอบข้างที่วุ่นวายไปได้ มีการวิจัยของ Mindlab Internationnal พบว่า 9 ใน 10 คนที่ฟังเพลงไปด้วยทำงานไปด้วย มี 5 แนวเพลงนี้ที่ส่งผลและกระตุ้นให้การทำงานดีขึ้น
- เพลงที่มีเสียงเบสหนักๆ จะช่วยจุดไฟในการทำงานให้ดีขึ้น
จากการวิจัยในปี 2005 เพลงที่มีเสียงเบสเป็นเสียงหลักของเพลงจะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกมีพลังระหว่างการทำงาน สร้างความคึกคักระหว่างการทำงาน เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่ข้อเสียของเสียงเบสอาจทำให้คนฟังเสียสมาธิและขาดความรอบคอบในงานได้ ดังนั้นหลังจากทำงานเสร็จควรตรวจทานอีกครั้งเสมอ
- เพลงที่มีแค่เมโลดี้ ไม่มีเนื้อเพลง
เพลงประเภทนี้ทำให้คนที่ฟังมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการทำงานนานๆ เพลงที่มีดนตรีเท่านั้นจะทำให้คนฟังรู้สึกสงบมากขึ้นนั่นเอง
- ดนตรีคลาสสิค
จากการวิจัยครั้งนี้พบว่า ดนตรีแนวคลาคสิคจะทำให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ฟัง ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง และสามารถลดความเครียดในการทำงานได้ด้วย ดนตรีชนิดนี้เหมาะกับคนที่ต้องการสมาธิขั้นสูง
- เพลงบรรเลงของโมซาร์ต
จากการทดลองโดยการให้นักเรียนหลายๆ กลุ่มแยกกันฟังเพลงบรรเลงของโมซาร์ตและมีอีกกลุ่มที่ไม่ฟังอะไรเลย พบว่านักเรียนที่ฟังเพลงบรรเลงโมซาร์ตมีผลคะแนนออกมาดีกว่ากลุ่มนักเรียนที่ไม่ได้ฟังอะไรเลย จากผลการวิจัยจึงระบุว่าการฟังเพลงโมซาร์ตอาจจะมีส่วนช่วยในเรื่องของความจำและกระบวนการคิดต่างๆ ก็ได้
- เพลงจังหวะป็อปฟังสนุก
ในการศึกษาพบว่าคนทำงานที่กำลังฟังเพลงสนุกๆ จะสามารถรับรู้ข้อมูลได้ดีขึ้น 58% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฟังเพลงอะไรเลย รวมไปถึงค้นพบว่าการฟังเพลงประเภทนี้จะช่วยลดความผิดพลาดในการพิมพ์หรือสะกดคำผิดได้ถึง 14% นักเขียนฟรีแลนซ์ควรฟังโดยด่วนๆ
ดนตรีแต่ละประเภทมีจุดเด่นและจุดสัมผัสของอารมณ์แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเมื่อรู้ข้อดีของการฟังเพลงแล้ว ช่วงนี้ทำงานแบบไหนอยู่สามารถเลือกฟังเพลงที่ส่งเสริมทางด้านนั้นได้ อาจจะไม่เห็นผลลัพท์ชัดเจนมากนัก แต่อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เพลิดเพลินระหว่างการทำงานได้เช่นกัน
ขอบคุณที่มาจาก lifehack.org
________________________________________________
