4 ทักษะพื้นฐานสู่การเริ่มต้นธุรกิจในยุค Thailand 4.0

[edsanimate_start entry_animation_type= “slideInUp” entry_delay= “0” entry_duration= “2” entry_timing= “cubic-bezier(0.455, 0.03, 0.515, 0.955)” exit_animation_type= “” exit_delay= “” exit_duration= “” exit_timing= “” animation_repeat= “1” keep= “yes” animate_on= “load” scroll_offset= “” custom_css_class= “”]

ในยุคปัจจุบัน อาชีพมนุษย์เงินเดือนอาจไม่ตอบโจทย์กับชีวิตของเราสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยจากหลายๆปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนน้อย ไม่มีโอที หางานยาก หรือว่าทำมาหลายปีแต่เงินเดือนกลับขึ้นไม่ถึงไหน จึงเป็นที่มาที่หลายๆ คนที่อยากออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ในยุคสมัยที่การทำธุรกิจนั้นเริ่มง่ายกว่าแต่ก่อนค่อนข้างมาก เพราะด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำ ทำให้สินค้าหรือบริการใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่ในทางกลับกัน เมื่อธุรกิจเกิดขึ้นง่าย ก็สามารถปิดตัวลงได้ง่ายเช่นกัน สาเหตุหลักๆ ส่วนใหญ่นั้นเป็นเพราะ เจ้าของกิจการขาดทักษะในการทำธุรกิจที่ถูกต้อง และขาดความรู้มากพอที่จะเอาตัวรอดในยุค Thailand 4.0

วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับทักษะการเริ่มต้นธุรกิจ สำหรับว่าที่เจ้าของธุรกิจเงินล้านคนใหม่มาฝาก เพื่อเสริมสร้างทักษะ ติดอาวุธ เสริมเกราะ ให้กับตัวคุณก่อนลงสนามจริง ซึ่งมี 4 ทักษะ พื้นฐานที่คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ หรือนำไปปรับใช้กับธุรกิจที่มีอยู่ตอนนี้ ได้แก่

 

1. Mindset ที่ถูกต้อง

 

 

ก่อนที่คิดจะเริ่มทำธุรกิจนั้น คุณจะต้องเตรียมความพร้อมของตัวคุณเองให้พร้อมซะก่อน ทั้งในเรื่องของเงินทุน การจัดการภาระต่างๆ ข้อมูลเชิงลึก ถึงแก่นแท้ของธุรกิจที่คุณอยากจะทำ ซึ่งหลายคนที่ล้มเหลวจากการทำธุรกิจ เป็นผลจากการขาดความรอบคอบ ลงทุนทำธุรกิจแบบหุนหันพลันแล่น อยากเกาะกระแสสินค้าหรือบริการในช่วงนั้นๆ ทุ่มสุดตัวจนหมดหน้าตัก คิดเพียงว่าขายดี ทำกำไรเห็นๆ ซึ่ง ร้อยทั้งร้อย เจ้าของกิจการที่มี Mindset แบบนี้นั้น ล้วนแล้วแต่เจ๊ง เป็นหนี้ ถึงขั้นล้มละลายแทบทุกราย

Mindset ที่ถูกต้องนั้น คุณควรจะเตรียมตัว ศึกษาหาข้อมูล ประเมินความเสี่ยงของธุรกิจ และโอกาสเติบโต แผนแตกไลน์ธุรกิจ ว่าสามารถแตกไลน์ได้อีกไกลแค่ไหน วางแผนดำเนินงาน แบบมีลำดับขั้นตอนอย่างชัดเจน และคุณเองก็ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆในระดับที่ดีมากๆ เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจระบบงานทั้งธุรกิจ ต้องคิดให้รอบครอบ หาคู่แข่ง วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณ อีกทั้งยังต้องวางแผนเรื่องการเงิน สำหรับธุรกิจ และการเงินส่วนบุคคล เพื่อประเมินความเสี่ยง และกันงบประมาณส่วนหนึ่งแยกไว้เผื่อสำรอง เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องของ Cash Flow และเพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินได้อย่างราบรื่น

 

2. การเลือกธุรกิจ

 

 

หนึ่งในคำถามยอดฮิต คือ “ทำธุรกิจอะไรดี ?” หลายคนคงได้ยินคำถามนี้ บ่อยๆ ซึ่งมักได้ยินจากคนที่อยากทำธุรกิจ และยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี อีกทั้งยังไม่ได้ศึกษาตลาดอะไรเลย เราขอแนะนำว่าหากใครอยากทำธุรกิจอะไร ลองนำหลักการ 3 ข้อนี้มาปรับใช้เลือกธุรกิจที่ใช่สำหรับคุณดูค่ะ

  • เลือกทำธุรกิจจากงานที่ชอบ
    การเลือกทำธุรกิจ จากงานที่ชอบ เป็นอะไรที่เริ่มต้นได้ง่ายที่สุดและเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุด ไม่ว่าจะมาจาก งานอดิเรก ความชอบ หรือมาจากงานประจำ ก็สามารถนำมาเป็นธุรกิจของคุณได้ เช่นคุณชอบทำอาหารและทำอาหารอร่อย คุณสามารถนำความชอบนี้ มาใช้ในเริ่มต้นเปิดร้านอาหารได้ เป็นต้น

 

  • เลือกทำธุรกิจ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ

การเลือกทำธุรกิจโดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหรือตลาดเป็นสำคัญนั้น ธุรกิจประเภทนี้จะมีเปอร์เซ็นต์เติบโตและยั่งยืนมากกว่าธุรกิจแบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งหากใครหรือธุรกิจไหนเจาะตลาดเจอกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงแล้วล่ะก็ ยังไงก็ขายได้แน่นอน ยกตัวอย่างเช่น แอพฯที่ให้บริการเรียกรถอย่าง Uber หรือ Grab ซึ่งเป็นแอพฯที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เบื่อหน่ายกับการเรียกแท็กซี่แล้วถูกปฏิเสธผู้โดยสารได้อย่างดี โดยแอพฯจะเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าเพียงเล็กน้อยต่อครั้ง ซึ่งนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

มาถึงเรื่องของเรากันบ้างว่า คุณจะเริ่มมองหาธุรกิจลักษณะนี้ได้อย่างไร? เราขอสรุปสั้นๆ กับหนึ่งเคล็ดลับที่คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจง่ายๆ ได้โดยอาศัยการสังเกตสิ่งรอบข้างว่ายังขาดอะไร เราจะรับมือกับปัญหานั้นได้อย่างไร หรือสินค้าไหนที่คิดว่าทุกคนต้องใช้หรือคนกลุ่มไหนที่มีปัญหา

ต่อมาเราต้องคิดและพัฒนาสินค้าหรือบริการนั้นให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด นี่เป็นหนึ่งในเคล็ดลับดีๆ ที่สามารถใช้ได้จริง ในการมองหาธุรกิจที่ใช่และเติบโตอย่างยั่งยืน

 

  • เลือกทำธุรกิจที่อยู่ในกระแส

หลักการข้อสุดท้ายในการเลือกทำธุรกิจคือ มาเร็วไปเร็ว ธุรกิจระยะสั้นเกิดได้ไวและต้องเข้าไปอยู่ในกระแสให้ทัน สำหรับธุรกิจลักษณะนี้ คุณเองต้องไว ต้องเป็นคนที่หมั่นสังเกตและอัพเดตข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเข้าไปอยู่ในกระแสช่วงต้นๆและสามารถกอบโกยกำไรได้ก่อนคนอื่น

 

3. การตลาดในยุค Digital Marketing

 

ธุรกิจ-Digital Marketing

 

ในยุค Thailand 4.0 ที่ซึ่งทุกอย่างผูกกับเทคโนโลยี ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจ ก็ล้วนแล้วแต่ต้องปรับการดำเนินธุรกิจไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ซึ่งผู้ที่คิดจะเริ่มทำธุรกิจในสมัยนี้นั้น คุณจะต้องมีความรู้และทักษะในด้าน Digital Marketing ที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะปัจจุบันพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปจากการเดินซื้อของ เป็นการสั่งซื้อของผ่านแอพพลิเคชั่นหรือสั่งซื้อทางออนไลน์กันหมดแล้ว ซึ่งหากคุณทำการตลาดออนไลน์ไม่เป็นเลย เท่ากับว่าการเปิดธุรกิจในครั้งนี้ มีโอกาสเจ๊งแทบจะเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่คุณควรจะมีทักษะในการทำการตลาดออนไลน์ติดตัวไว้ก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจ

 

4. ความอดทน

 

 

ทักษะนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะเจ้าของธุรกิจ ที่ไม่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนนั้น ขาดความอดทนในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะอดทนในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ อดทนในช่วงสภาวะตลาดซึมเศร้า คนไม่จับจ่ายใช้สอย หรือไม่อดทนแม้ขณะยอดขายติดลบในช่วงเวลาหนึ่ง การเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น คุณจะต้องมีความอดทนต่อแรงกดดันและสภาพแวดล้อมต่างๆ รวมถึงต้องวางแผนเผื่อรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้ด้วย เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นในทุกสภาวะ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาที่เราเอามาฝากทุกคน อย่าลืมนำ 4 ทักษะดีๆ นี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ รับรองเลยว่า 4 ทักษะที่ว่านี้จะช่วยให้คุณสามารถทำธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จแน่นอน สำหรับใครที่อยากอ่านบทความธุรกิจดีๆ แบบนี้ ก็สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ค Taokaemai หรือที่ Taokaemai.com

ฟรีแลนซ์ในหมวด เทคนิคน่ารู้สำหรับฟรีแลนซ์

Related Posts
This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.